โดย : เชษฐา มีมั่งคั่ง

ตลาดหุ้นโลกเริ่มเห็นการปรับฐานลงมากันบ้างแล้ว หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวดัชนี 20,000 จุดตั้งแต่มกราคม 2017 พอมาถึง มกราคม 2018 ก็ขึ้นมาอีก 7,000 จุด ถ้าไม่ปรับฐานทำกำไรกันบ้าง คงจะขึ้นยาก ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค มองแนวรับใหญ่ที่ 22,000 จุด คาดว่าจะเป็นจังหวะรีบาวด์ ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนรอบนี้กลับมาแข็งแกร่ง ลงไม่เยอะเหมือนดัชนีดาวโจนส์

ส่วนประเด็นที่น่าจับตา คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขึ้นไปถึงระดับ 2.8 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ปรับฐานลงมา แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย กลับเห็นการกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 2.4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้แก็ปหรือช่องว่างระหว่างผลตอบแทนแคบลงมาอีก สะท้อนได้ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทของไทย จะไปทางแข็งค่าได้อย่างต่อเนื่อง มีแนวรับ 31 ส่วนแนวต้ต้าน 32 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017 จากระดับ 43 เหรียญต่อบาร์เรล ขึ้นมาถึงแนว 66 เหรียญต่อบาร์เรล จากการร่วมมือจำกัดการส่งออกของกลุ่มโอเปก และผู้ผลิตที่อยู่นอกกลุ่มโอเปกที่มีประเทศรัสเซียคอยช่วยกันผลักดัน ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ ทำให้ราคายางสังเคราะห์ (Synthetic) ปรับตัวขึ้นตามมาด้วย

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค กราฟการซื้อขายยางล่วงหน้าตลาดโตเกียวเป็น Side Ways แกว่งตัวไปมาขึ้นลงอยู่ระหว่างราคา 190- 220 เยน/กิโลกรัม หากราคายางสังเคราะห์เป็นขาขึ้น ก็มองว่า ราคายางธรรมชาติ (Natural Rubber) คงจะเริ่มลงยาก อีกทั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็นฤดูยางผลัดใบ ปริมาณ Supply ในตลาดก็จะน้อยลง

ดังนั้น แนวโน้มราคายางในตลาดโลก คาดว่าจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นครับ โดยจะมีจุดเปลี่ยนเทรนด์ที่แนวต้าน 238 เยน/กิโลกรับ หากผ่านได้ จะเป็นภาวะกระทิง (Bull Market) ขอให้โชคดีครับ…

 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here