“ไออาร์พีซี” แจงฐานะการเงิน 5 ปีนี้พร้อมลงทุน 1 แสนล้านบาท แย้มโครงการอะโรเมติกส์จ่อผลิตได้เพิ่มขึ้น คาดชัดเจน 1-2 เดือนนี้ ฟุ้งไตรมาส 3 นี้พร้อมประกาศดีลซื้อกิจการอย่างน้อย 1 โครงการ

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการ MARS เพื่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ว่า บริษัทฯ ได้ศึกษารายละเอียดพบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขนาดการผลิตขึ้นจากเดิมผลิตพาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี เป็น 1.1-1.3 ล้านตัน/ปี และผลิตเบนซีนจาก 3 แสนตัน/ปี เพิ่มเป็น 3-5 แสนตัน/ปี โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด (FEED) คาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 1-2 เดือนนี้

ส่วนความคืบหน้าการร่วมลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) นั้น ในอ.บ้านค่าย จ.ระยองนั้น ทางWHA เป็นผู้พัฒนาพื้นที่ที่บริษัทเป็นคนขายที่ดินราว 2,000 ไร่ คาดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานทั้งในส่วนการดูแลชุมชน การจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) การขอใบอนุญาตใหม่ เพราะปรับผังการใช้พื้นที่ใหม่หมดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีซึ่งจะต้องใช้เวลาราว 2-3 ปีกว่าจะเริ่มเปิดขายพื้นที่ในนิคมฯดังกล่าวได้

ส่วนพื้นที่ในเขตประกอบการของบริษัทฯ เองที่ อ.เชิงเนิน จ.ระยอง ยังมีพื้นที่เหลือราว 1,000 ไร่ โดยในส่วนนี้สำรองไว้สำหรับดำเนินโครงการ MARS ราว 200 ไร่ และที่เหลืออีก 700-800 ไร่จะสำรองไว้รองรับการลงทุนขนาดใหญ่ของกลุ่ม บมจ.ปตท.ในอนาคต เนื่องจากนับวันพื้นที่ลงทุนโครงการปิโตรเคมีในแถวมาบตาพุดจะหายากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3 นี้บริษัทฯ มั่นใจว่าดีลซื้อกิจการหรือร่วมลงทุน (M&A) จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีล โดยจะเป็นการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องภายในประเทศเป็นหลักก่อนที่จะหาโอกาสขยายไปต่างประเทศ

สำหรับแหล่งเงินลงทุนโครงการต่างๆ นั้น บริษัทฯ มีศักยภาพลงทุนใน 5 ปีนี้ราว 1 แสนล้านบาท หรือกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาจากเงินสดที่จะมาจากการดำเนินงานราว 1 หมื่นล้านบาท/ปี และศักยภาพในการกู้เงินอีกราว 1 หมื่นล้านบาท/ปี เนื่องจากมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำที่ระดับ 0.56 เท่าเมื่อสิ้นไตรมาส 1/2561 โดยในส่วนนี้ราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ใช้ลงทุนในโครงการ MARS เพื่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ และอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐไว้ใช้ซื้อกิจการ (M&A) ภายใต้โครงการ GALAXY ส่วนที่เหลืออีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำรองไว้ลงทุนในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีที่แล้ว และทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปีนี้ไม่มีปิดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนในปีก่อน ทำให้สามารถเดินเครื่องกลั่นน้ำมันได้เกิน 2.1 แสนบาร์เรล/วันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 1.8 แสนบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว ขณะที่กำลังการกลั่นเต็มที่ของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 2.3 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.15 แสนบาร์เรล/วัน หลังจากได้ขยายกำลังการกลั่นช่วงปิดซ่อมบำรุงใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา และรับรู้รายได้จากโครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกเต็มที่จากโครงการที่แล้วเสร็จปลายปีที่แล้ว ทั้งการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการติดตั้งหอกลั่น Max Gasoline Mode เพื่อปรับปรุงน้ำมันเบนซินที่ยังมีส่วนประกอบที่หลากหลาย (gasoline components) ที่เดิมจะต้องส่งออกนั้นจะนำบางส่วนมาแยกสารบางประเภทออกเพื่อให้สามารถนำน้ำมันเบนซินกลับมาขายในประเทศเพิ่มขึ้น

ติดตามข่าวสารข้อมูลยางและพลาสติกเพิ่มเติมที่ www.rubberplasmedia.com, www.rubbmag.com

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here