อะคิโยชิ ยังคงปักหมุดมานานกว่า 2 ทศวรรษ พร้อมฉลองครบรอบ 24 ปี เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชน สัมผัสรสชาติอาหารต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ของชาบู ชาบู -สุกี้ยากี้ พร้อมแนะนำเมนูน้องใหม่ปิ้งย่างอะคิยากิ ในบรรยากาศหรูหรา ร่วมสมัยกับโฉมใหม่ที่สาขาพระโขนงที่ใช้งบลงทุน renovate กว่า 10 ล้านบาท

คุณศรีหทัย ไพรสานฑ์กุล รองประธานกรรมการบริษัท อะคิโยชิ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริหารของร้านอะคิโยซิ นับเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว เรายังคงแนวคิดของการรักษาคุณภาพและรสชาติความเป็นญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนแปลง โดยตัวเธอเป็นผู้บริหารคนปัจจุบัน ที่จะขับเคลื่อนอะคิโยชิให้เข้าสู่ยุคทองและเจริญรุ่งเรืองต่อไป เพื่อสานฝันของ “อาม่า” (คุณอุดมศรี ไพรสานฑ์กุล ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้านอะคิโยชิ)

ทั้งนี้ ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 24 ปี ทางอะคิโยชิ ได้ทุ่มงบกว่า 10 ล้าน เพื่อตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาด ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ของร้านอาหารประเภทชาบู ชาบู – สุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น โดยการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับของร้านอะคิโยชิ สาขาแรกที่พระโขนง ซึ่งได้ถูกปรับแต่งสถานที่ให้หรูหรา ร่วมสมัย รองรับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน พร้อมเสิร์ฟรสชาติอาหารดั้งเดิมที่ครองใจทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาครัวกลาง ระบบไอที โกดัง การจัดส่ง การซื้อขายหน้าร้านและตัวออฟฟิต เพื่อให้มีมาตรฐานมากที่สุด สามารถรองรับสาขาต่างๆ ที่จะเพื่มขึ้นในอนาคตได้ ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2562 นี้ จะทำให้มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% หรือยอดขายประมาณ 220-230 ล้านบาท

คุณศรีหทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า อะคิโยชิ ถือเป็นร้านอาหารประเภทชาบู ชาบู – สุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น เจ้าแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 24 ปี โดยยังคงเอกลักษณ์ตามต้นตำรับจากเมืองชิกาซากิ ประเทศญี่ปุ่นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ เครื่องปรุง การปรุงอาหาร ได้รับการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ จากเชฟชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ มร. ฮิโรคาชุอุเอฮาร่า (Mr.Hirokazu Uehara)

“เสน่ห์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ในการรับประทานสุกี้ยากี้ที่อะคิโยชิ คือ ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการผัดสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นที่จะต้องผัดผักและเนื้อสัตว์ก่อนและจึงเติมน้ำซุป ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานและทำให้สุกี้ยากี้นั้นกลมกล่อมอีกด้วย เรารักษาวัฒนธรรมการรับประทานแบบนี้ไว้ที่นี่ โดยไม่ลืมที่จะให้บริการด้วยสถานที่อันหรูหรา บรรยากาศดีตามยุคสมัยด้วย”

“นอกจากชาบู ชาบู – สุกี้ยากี้แล้ว ยังให้บริการเมนูปิ้งย่างอะคิยากิ ซึ่งเมนูนี้ เราได้พัฒนามาเพื่อเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มทางเลือกในการรับประทานให้กับลูกค้า เรียกว่ามาที่อะคิโยชิที่เดียวมีครบเลย” คุณศรีหทัย กล่าว

ปัจจุบัน ร้านอาหารญี่ปุ่นอะคิโยชิ ยังคงรสชาติของอาหาร เครื่องปรุง และวัตถุดิบแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ มาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2538 บริหารโดยบริษัท อะคิโยซิ จำกัด หนึ่งในเครือกลุ่มบริษัทไทยซิน ปัจจุบันมี 6 สาขาที่ พระโขนง, เอเชียทีค, สยามสแควร์วัน, เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์, สเปลล์ แอท ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเตรียมเปิดสาขาที่ 7 จามจุรีสแควร์ ในช่วงประมาณกลางปี 2562 นี้

ในปัจจุบัน แม้จะยังมีจำนวนสาขายังจะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น แต่จากการที่บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ กับการขยายผ่านโลเคชั่นหลักที่มีครบทั้ง 4 มุมเมืองนั้น เชื่อว่าจะสามารถรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวกอย่างแน่นอน” คุณศรีหทัย กล่าวในที่สุด

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here