3 ผู้บุกเบิกวงการสตาร์ทอัพ – ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์, 500 ตุ๊กตุ๊ก และ บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล ประกาศความสำเร็จโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านการศึกษาในงาน StormBreaker Venture Demo Day 2019 ครั้งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งปฏิวัติการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี และพัฒนาระบบการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ตอบโจทย์โลกการทำงานในยุค Digital
นายกระทิง พูนผล ผู้ก่อตั้งกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก และ ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ เปิดเผยว่า StormBreaker Venture เป็นโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการด้านการศึกษา ที่เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะปฏิวัติการศึกษาไทย โดยนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการศึกษาในยุคดิจิทัล โดยโครงการนี้ ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ตอบโจทย์โลกการทำงานในยุค Digital Disruption และเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้คนไทยทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่แห่งการเรียนรู้ให้กับคนไทยกว่า 1 ล้านคนภายในปี 2563 ซึ่งใน 4 เดือนที่ผ่านมา สามารถเปลี่ยนการเรียนรู้ของผู้เรียนไทยกว่า 150,000 คน ทั้งนี้ ทางโครงการ ฯ เตรียมพร้อมสร้าง Edtech Startups ไทยสู่ระดับพันล้านภายใน 5 ปี เพื่อมุ่งสู่ Edtech Ecosystem อันดับ top ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ตลาดการลงทุนใน Edtech ถือว่าเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนกำลังจับตามอง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยดูได้จากตัวเลขจากการลงทุนทั่วโลกของ VC ใน Edtech นั้นมีมากกว่า $9.52 billion USD หรือประมาณ 297,980 ล้านบาท ซึ่งมาจาก Edtech Startups กว่า 813 ตัว คิดเป็นการเติบโตกว่า 30% และคาดว่าในปี 2563 การลงทุนใน Edtech Startups ทั่วโลก จะมีมากกว่า 10 billion USD หรือประมาณ 313,005 ล้านบาทซึ่งในส่วนของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะมีมากกว่า 4,695 ล้านบาท และในประเทศไทยคาดว่าจะคิดเป็นประมาณ 156 – 313 ล้านบาท โดยในอนาคต แนวโน้มของ Edtech ยังคงโฟกัสไปที่ตลาดใหญ่ ๆ เช่น ภาษาอังกฤษหรือการฝึกอบรมด้านภาษา, Professional Reskilling, Personalized Learning Pathway, Career Accelerator และจะเริ่มมีการนำเทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อน (Deep Tech) มาใช้งาน เช่น AI (Artificial Intelligence) ปัญญาประดิษฐ์ และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning), Mixed Reality และ IoT รวมถึงเทคโนโลยีการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับกระบวนการคิด (Cognitive Learning) มาใช้ใน Edtech Startups รุ่นใหม่ ๆ ซึ่ง Edtech Ecosystem ไทยยังคงอยู่ในขั้นเริ่มตั้งไข่ แต่คาดว่าภายในปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 100%”  นายกระทิง กล่าว
นายกระทิง กล่าวเพิ่มเติมว่า StormBreaker Venture ยังพร้อมเป็นบันไดให้เหล่า Edtech Startups ก้าวสู่แถวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนอกจากการผลักดันผ่านทางโครงการ StormBreaker Venture แล้ว ควรจะมีการสนับสนุนด้านอื่น ๆ จากภาครัฐ เช่น กองทุน matching fund เพื่อการสนับสนุน Edtech Startups โดยการ match ในสัดส่วนที่สูงกว่า startups ทั่วไป, Edtech Marketplace ให้หน่วยงานรัฐ หรือเอกชนมาช่วยกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Edtech เพื่อได้ส่วนลดหย่อนภาษีในอัตราก้าวหน้า, การนำร่องทดลองใช้ Edtech ในพื้นที่นวัตกรรมเพื่อการศึกษา หรือโครงการเชื่อมต่อ Edtech กับสถาบันการศึกษาของไทยในทุกระดับ และสามารถ classify ว่า สื่อ online ก็เป็นหนังสือเรียน เพื่อให้โรงเรียนใช้งบสนับสนุนในส่วนของสื่อการเรียนได้ อีกทั้งมาตรการสนับสนุนทางภาษี และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อการหมุนเวียนเงินทุนเพื่อการเติบโตของ Edtech Startup ล้วนเป็นแนวทางที่สามารถช่วยผลักดันให้ระบบนิเวศน์ทางด้านการศึกษา และนวัตกรรมการศึกษาไทยสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
ด้าน นางสาวจันทนารักษ์ ถือแก้ว กรรมการผู้จัดการ โครงการ StormBreaker Venture กล่าวว่า StormBreaker Venture Demo Day 2019 Batch 1 เป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องจาก Education Disruption เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จก้าวแรกในการบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านการศึกษาครั้งแรกในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้สุดยอด Edtech Startups 4 ทีมสุดท้าย นำโดยทีม Vonder ผู้บุกเบิกการทำแชทบอทด้านการศึกษาที่สามารถเข้าถึงนักเรียนทั่วประเทศ 70,000 คน และพนักงานองค์กรอีก 30,000 คน, ทีม Voxy ระบบปฏิบัติการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างการเรียนรู้ใหม่ด้านภาษาอังกฤษ, ทีม insKru ผนึกกำลังครูทั่วประเทศพลิกโฉมการเรียนการสอนไทย กระจายไอเดียการสอนสู่ครู เพื่อต่อยอดสู่นักเรียน 50,000 คน และทีม OpenDurian “เปิด-ดู-เรียน” ผู้นำด้านการศึกษาออนไลน์ที่มียอดขายกว่า 49 ล้านบาท ตั้งเป้าเตรียมสร้าง talent ไทย 500,000 คน รับมือกับ Digital Disruption
“Edtech Startup 4 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก ถือเป็น 4 ทีมนำร่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการศึกษา 4 ด้านคือ การเรียนรู้และพัฒนาทักษะแห่งอนาคต (STEM and Coding for All) การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้การทำงานของคุณครูไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Teacher of The Future) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรในยุคดิจิทัล (Reskilling Professionals) เพื่อรับมือกับการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Disruption) ที่จะเกิดขึ้น และด้านสุดท้าย การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English For All) โดยนำเทคโนโลยีหรือเทคนิควิธีการสอนรูปแบบใหม่มาใช้เพื่อให้เด็กไทยมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้ง 4 ด้านข้างต้น ล้วนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพด้าน Edtech ของไทย โดยเชื่อมั่นว่า Edtech Startup จะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ผลักดันให้ระบบการศึกษาไทยได้พัฒนาและยกระดับทัดเทียมนานาประเทศ” นางสาวจันทนารักษ์ กล่าว
“StormBreaker Venture จะเป็นจุดเริ่มต้น และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของระบบการศึกษาไทย โดยมีเทคโนโลยีและมันสมองของเหล่า Edtech Startup ไทย พาประเทศไทยก้าวกระโดดสู่โลกการศึกษาแห่งยุคดิจิทัลที่มีศักยภาพ และพร้อมรับมือกับการดิสรัปท์ในทุกรูปแบบ ยกระดับระบบการศึกษาของประเทศสู่ Smart Education หรือ Education 4.0 ที่ตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ” นางสาวจันทนารักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง โครงการ StormBreaker เปิดรับ Edtech Startup เข้าสู่ Batch 2 โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 17 พฤษภาคม 2562 นี้  สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.disruptignite.com/accelerator/edtech-accelerator หรือ สอบถามรายละเอียดที่ อีเมล์ all@disruptignite.com 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here