กรุงเทพมหานคร,วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 – ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนทุกวันนี้ แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ สามารถเริ่มต้นไตรมาสแรกของปี2565 (.ศ.2022) ได้อย่างแข็งแกร่ง วันนี้ได้ประกาศยืนยันตัวเลขที่สำคัญเบื้องต้นสำหรับไตรมาสแรกที่พึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา และแลนเซสส์ยังมั่นใจเช่นกันว่าจะผ่านไตรมาสที่สองได้ด้วยตัวเลขที่ดีเช่นกัน ซึ่งกลุ่มบริษัทคาดว่าไตรมาสที่สองจะมี EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ระหว่าง 280 ล้านยูโร ถึง 350 ล้านยูโร โดยในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัททำได้ 277 ล้านยูโร เมื่อมองภาพรวมทั้งปี แลนเซสส์ยังคงคาดว่า EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติจะสูงกว่าปีที่แล้วอย่างมาก อย่างไรก็ตามการคาดการนี้ยังไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มจากสงครามในยูเครนและการที่แลนเซสส์เข้าควบรวมกิจการหน่วยธุรกิจผลิตสารควบคุมจุลินทรีย์ของบริษัท IFF การทำธุรกรรมนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ลงในไตรมาสที่สามของปีนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นไปที่สารเคมีชนิดพิเศษโดยเฉพาะ จึงทำให้เรามีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงสามารถปรับราคาขึ้นชดเชยต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ผลกระทบที่ชัดเจนของสงครามในยูเครนที่มีต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของธุรกิจ ดังนั้นเราจึงติดตามสถานการณ์สงครามนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด” Matthias Zachert ประธานคณะกรรมการบริหารของ LANXESS AG กล่าว

ในไตรมาสแรกของปี 2565 EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นอย่างมากและมีมูลค่า 320 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าตัวเลข 242 ล้านยูโรในปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 32.2 ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทมีส่วนทำให้เกิดการเติบโต โดยกลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งพิเศษ (Specialty Additives) ทำงานได้ดีเป็นพิเศษ แลนเซสส์สามารถปรับราคาขึ้นชดเชยราคาของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

การเข้าควบรวมกิจการ Emerald Kalama Chemical ได้อย่างประสบความสำเร็จ มีส่วนทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นในเชิงบวกเช่นกัน ดังนั้นอัตรา EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติจึงอยู่ที่ร้อยละ 13.2 เทียบกับร้อยละ 14.3 ในปีที่แล้ว

ในไตรมาสแรกยอดขายของทั้งกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 2.432 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.7 จากตัวเลขของไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วที่ 1.693 พันล้านยูโร รายได้สุทธิแตะ 98 ล้านยูโร สูงกว่าในปีที่แล้ว ที่ทำได้ 63 ล้านยูโร

ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถปรับราคาขายชดเชยต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้น

ยอดขายของกลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.6 จาก 452 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็น 613 ล้านยูโร ยอดขายที่ดีขึ้นเป็นผลจากราคาขายที่สูงขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจาก LANXESS สามารถปรับราคาขายชดเชยราคาวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มนี้มีมูลค่า 87 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.3 จากตัวเลข 70 ล้านยูโรของปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกัน และ EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ร้อยละ 14.2 เทียบกับร้อยละ 15.5 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ในกลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งพิเศษ (Specialty Additives) ราคาขายที่สูงขึ้นและความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยทั่วไปส่งผลให้ยอดขายและ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการที่ดีจากอุตสาหกรรมการก่อสร้าง น้ำมันและก๊าซ และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการบิน แนวโน้มที่ดีของอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ส่งผลดีเช่นเดียวกัน ยอดขายของกลุ่มนี้มีมูลค่า 730 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.2 จากตัวเลข 517 ล้านยูโรในปีที่แล้ว EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 83.8 จาก 74 ล้านยูโรในปีที่แล้วเป็น 136 ล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และ EBITDA margin จากการดำเนินงานตามปกติพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18.6 เทียบกับร้อยละ 14.3 ในปีที่แล้ว

ยอดขายและรายได้ของกลุ่มธุรกิจการปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection) ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หน่วยธุรกิจ Flavours & Fragrances ที่ผนวกเข้ามาใหม่มีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกเป็นพิเศษกับกลุ่มธุรกิจนี้ หน่วยธุรกิจนี้ประกอบด้วยธุรกิจเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์พิเศษเฉพาะสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคจากการเข้าควบรวมกิจการของบริษัท Emerald Kalama Chemical ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ทุกหน่วยธุรกิจของกลุ่มธุรกิจนี้ยังสามารถปรับราคาขายให้สูงขึ้นอีกด้วย แนวโน้มที่ดีของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลในเชิงบวกเช่นกัน ปริมาณการขายที่ลดลงบางส่วนเนื่องมาจากสถานการณ์ด้านลอจิสติกส์ที่ยากลำบากโดยทั่วไป ยอดขายอยู่ที่ 506 ล้านยูโรเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.4 จากตัวเลขไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 341 ล้านยูโร EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จาก 76 ล้านยูโรในปีที่แล้วเป็น 86 ล้านยูโร และ EBITDAmargin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ร้อยละ 17.0 เทียบกับร้อยละ 22.3 ในปีที่แล้ว

แนวโน้มที่ดีของยอดขายและกำไรของกลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) ในไตรมาสแรกเกิดจากการต้องปรับราคาขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการการปรับขึ้นราคาของวัตถุดิบและพลังงาน ยอดขายอยู่ที่ 576 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 จากยอดขายปีที่แล้วที่ 377 ล้านยูโร EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13.6 จาก 59 ล้านยูโรในปีที่แล้วเป็น 67 ล้านยูโร ความต้องการที่ลดลงเล็กน้อยจากอุตสาหกรรมยานยนต์เนื่องจากการขาดแคลนอุปทานทำให้รายได้ลดลงตามปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง และ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติลดลงจากร้อยละ 15.6 ในปีก่อนหน้าเป็นร้อยละ 11.6 ในปีนี้

ตัวเลขสำคัญของ LANXESS สำหรับไตรมาสแรกปี 2565

อนึ่ง แลนเซสส์ (LANXESS) เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) มียอดรายได้รวม 6.1 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2563 และมีพนักงาน 14,300 คนอยู่ใน 33 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจหลักของแลนเซสส์ คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) และพลาสติก แลนเซสส์เป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lanxess.com

สำหรับ LANXESS China เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2548 บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและ LANXESS Chemical (China) Co., Ltd. เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 15 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 7 แห่ง และโรงงานผลิต 8 แห่ง โดยมีพนักงานราว 1,500 คนในจีนแผ่นดินใหญ่ LANXESS ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาโซลูชันที่มุ่งเน้นตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในท้องถิ่น#

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here