แลนเซสส์ (LANXESS) บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2019 แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

กรุงเทพฯ, วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 - แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานของปีการเงิน 2019 แม้จะเผชิญสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยEBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์เป็น 1.019 พันล้านยูโร ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง 1 พันล้านยูโรถึง 1.05 พันล้านยูโรตามที่ได้เคยแจ้งการประมาณการณ์ไว้ ส่วนปีการเงิน 2018 ที่ผ่านมาบริษัทมี EBITDA ที่ 986 ล้านยูโร สำหรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นของกลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) กลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งชนิดพิเศษ (Specialty Additives) และกลุ่มธุรกิจสารเคมีประสิทธิภาพสูง (Performance Chemicals) เข้ามาชดเชยรายได้ที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง และได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้เปรียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติของทั้งปีสูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทเทียบกับ 14.4 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว “ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปี 2019 เราต้องยืนหยัดสู้กับการทดสอบจริงเป็นครั้งแรกหลังจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่แลนเซสส์กลับสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิม” คุณแมตเธียส แซกเชิร์ต  (Matthias Zachert) ประธานคณะผู้บริหารของ LANXESS AG กล่าว “ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้เรายังสามารถเพิ่มอัตรากำไรของเราจนสร้างสถิติใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ฐานทางการเงินของเรา สำหรับโครงการการเติบโตใหม่ในปี 2020 เราจะทุ่มเทให้กับธุรกิจในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคที่มีอัตรากำไรสูงและแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะในตลาดเทคโนโลยีแบตเตอรี่” ณ วันที่...

LEGO มุ่งมั่นเปลี่ยนไปใช้พลาสติกที่มีความยั่งยืน

ต่อไปชิ้นส่วนที่เป็นของเล่นจากบริษัท LEGO เช่น ใบไม้ พุ่มไม้และต้นไม้ จะทำจากพลาสติกจากพืชที่ได้จากอ้อย และจะปรากฏในกล่อง LEGO ที่วางจำหน่ายในปี 2018 การผลิตได้เริ่มขึ้นแล้วสำหรับชิ้นส่วนต่างๆ ที่ยั่งยืนของ LEGO ที่ทำจาก polyethylene ที่ทำจาก ethanol ที่ได้จากอ้อย ถึงแม้จะทำจากอ้อย แต่ polyethylene ดังกล่าว ซึ่งเป็นพลาสติกที่นุ่ม คงทนและยืดหยุ่น ให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมือนทางเทคนิคเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลาสติกดั้งเดิม...

3 สถาบัน มั่นใจ อุตฯยาง-พลาสติก ยังเติบโตรับภาคผลิตไทย ชี้ พลาสติกคอมโพสิท โต 10 เท่า รับกลุ่ม 5 อุตฯ แห่งอนาคต

สถาบันพลาสติกแห่งประเทศไทย ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียาง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมไทยคอมโพสิท มั่นใจการเติบโตของอุตสาหกรรม “พลาสติก – ยาง” โดยปริมาณการผลิตเม็ดพลาสติกในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 11.46 ล้านตัน และมีแนวโน้มขยายตัวเหนือจีดีพีประเทศเล็กน้อยที่ 3.9-4.0% ในขณะที่ปริมาณการผลิตยางในปีที่ผ่านมาอยูที่ราว5 ล้านตัน อย่างไรก็ตามด้าน “พลาสติกคอมโพสิท” มีแนวโน้มความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นมากถึง 10 เท่า โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต อาทิ อากาศยาน ยานยนต์สมัยใหม่ ระบบรางรถไฟฟ้า ฯลฯ นอกนี้เพื่อแสดงศักยภาพและความต้องการของตลาดที่ยังคงมีอีกมาก เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ผู้จัดแสดงงานด้านอุตสาหกรรมได้เตรียมจัดงาน“ทีพลาส 2019”  มหกรรมเทรดแฟร์สุดยิ่งใหญ่ด้าน “พลาสติก – ยาง” ที่ระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2562 ณ ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ นายคงศักดิ์ ดอกบัว รองผู้อำนวยการสถาบันพลาสติกแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตพลาสติกที่สำคัญของโลก โดยมีมูลค่าเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมพลาสติกในปี 2561 สูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 7.28% ของจีดีพีโดยประมาณ หรือมีปริมาณการผลิตเม็ดพลาสติกในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11.46 ล้านตัน ปัจจัยหลักมาจากความต้องการใช้พลาสติกในการผลิตใน...

Thailand Plastics Industry Snapshot September 2019

โดย นายศตพร  สภานุชาต สถาบันพลาสติก เศรษฐกิจไทย กันยายน 2019 ยังคงไม่สู้ดีนัก…ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกไทยในภาพรวมเดือนกันยายนนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหดตัวที่ -1.39% ภาพรวมการส่งออกสะสม 9 เดือน หดตัวเช่นเดียวกันในอัตรา -2.11% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2019 ที่ซบเซาอย่างต่อเนื่องโดยมีประเด็นด้าน Trade war และ Brexit เป็นปัจจัยกระทบหลัก อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในเดือนกันยายนนี้ กลับปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาในอัตรา +3.2% เป็นผลจากแนวโน้มที่ดีขึ้นของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่มีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น ทำให้ความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจบรรเทาลงได้บ้าง ในทางกลับกัน ทิศทางราคาเม็ดพลาสติกภาพรวมยังคงอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องจากระดับอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศที่เบาบาง แต่ทั้งนี้ ผู้ผลิตเม็ดในแต่ละภูมิภาคยังคงมีความพยายามในการปรับราคาเม็ดพลาสติกให้สูงขึ้นผ่านกิจกรรมการกระตุ้นตลาดอย่างระมัดระวัง ภาวะการผลิตเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกภายในประเทศที่สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI) ชะลอตัวในทุกรายการลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน รวมถึงดัชนีการส่งสินค้า (Shipment Index) ที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง (Inventory Index) กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณสะท้อนถึงการลดลงของระดับอุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศในช่วงเวลานี้อย่างชัดเจน ด้านการส่งออกเม็ดพลาสติกเดือนกันยายน...

แก้วพลาสติกชีวภาพจากอ้อยและน้ำตาลทราย

สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ร่วมกับสถาบันพลาสติก กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากอ้อยและน้ำตาลทรายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำร่องมอบแก้วพลาสติกชีวภาพให้แก่หน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (ลอน.) กล่าวว่า จากการส่งเสริมของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยส่งเสริมให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วน โดยใช้เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงของโลกอุตสาหกรรม โดย สอน. ได้ร่วมมือกับสถาบันพลาสติก พัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากพืชเศรษฐกิจของไทยอย่าง “อ้อย” ให้สามารถแปรรูปเป็นพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ แก้วน้ำพลาสติกชีวภาพ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำในอีกหนึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ จากเดิมที่อ้อยสามารถผลิตได้เพียงน้ำตาลเท่านั้น ให้สามารถพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ จึงได้จัดกิจกรรมเปิดตัวแก้วพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากอ้อยและน้ำตาลทรายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม...

Thailand Plastics Industry Snapshot July 2019

โดย นายศตพร  สภานุชาต สถาบันพลาสติก ราคาเม็ดพลาสติกเริ่มฟื้นตัวจากเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จากมาตรการขยายเวลาการเข้าควบคุมปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC รวมถึงแนวโน้มการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จากความต้องการบริโภคน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ระดับอุปสงค์เม็ดพลาสติกในตลาดเอเชียกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศจีนที่ภาคการผลิตเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่กลับเข้ามามากกว่าเดือนก่อน ส่งผลให้ระดับอุปทานเม็ดพลาสติกภาพรวมปรับลดลง ความเคลื่อนไหวตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหมวดเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนกรกฎาคม 2019 บ่งชี้ว่าการผลิตเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเริ่มฟื้นตัวตามอุปสงค์ตลาดส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ในเดือนนี้ มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาในอัตรา +6.3% จากการส่งออกไปประเทศจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเทียบในมิติ YoY มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกยังคงติดลบถึง -10.6% แต่การส่งออกเชิงปริมาณกลับขยายตัวได้ที่ +13.8% ด้วยสาเหตุจากระดับราคาเม็ดพลาสติกเฉลี่ยที่คงตัวในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง -20.3% ส่งผลให้ภาคมูลค่าเกิดการหดตัวที่ชัดเจน ทางด้างการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก ขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาได้เล็กน้อยในอัตรา +1.6% จากการส่งออกไปยังตลาดหลักอย่าง ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้มากขึ้นในอัตรา +2.1% และ +5.1% ตามลำดับ สำหรับตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวอยู่ เป็นผลจากการถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยระดับราคาเม็ดพลาสติกในปีนี้ที่เคลื่อนไหวในแนวต่ำแล้ว ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีทิศทางถดถอยอย่างชัดเจน...

แลนเซสส์ (LANXESS) ตอกย้ำการพัฒนาเป็นเมืองอย่างยั่งยืน ในงาน CHINACOAT

กรุงเทพมหานคร, วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 – แลนเซสส์ (LANXESS) จะร่วมจัดแสดงหลากหลายผลิตภัณฑ์ของตนในงาน CHINACOAT 2019 โดยมุ่งโฟกัสไปที่แนวโน้มหลัก ได้แก่ การกลายเป็นเมือง (urbanization) และการพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น แลนเซสส์จะจัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นล่าสุดของ 4 หน่วยงานได้แก่ หน่วยงานเม็ดสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments:IPG), หน่วยงานผลิตภัณฑ์การปกป้องวัสดุ (Material Protection Products: MPP), RheinChemie (RCH) และ Urethane Systems (URE) ภายในงานจะมีผู้เชี่ยวชาญของแลนเซสส์ มากล่าวให้ความรู้ทางเทคนิค 3 ช่วงเวลา ช่วงแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 13:30-15:30 น. ช่วงที่ 2 และ 3 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 10:30-11:00 น. และ 14:00-14:30 น. เม็ดสีคุณภาพสูงจาก "โรงงานสีเขียว" เพื่อให้เหมาะกับการเติบโตของเมืองในประเทศจีน จุดเด่นของแลนเซสส์ในงาน CHINACOAT 2019 จะเป็นการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะช่วยในการปกป้องสีและสารเคลือบผิวซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบตามสลากสีเขียว (Green Label) ของอุตสาหกรรมการเคลือบผิวในประเทศจีน สารกันเสีย (preservatives) ที่นำมาแสดงในงานทั้งแบบบรรจุในกระป๋อง (in-can) และแบบแผ่นฟิล์ม (dry-film) จะแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมเหนือกว่าสารกันเสียทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ Bayferrox เกรดใหม่ทั้งหมด ผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองหนิงโป (Ningbo) ประเทศจีน โดยโรงงานแห่งนี้ได้รับใบรับรอง "โรงงานสีเขียวแห่งชาติ" จากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ในปี 2018...

แลนเซสส์ (LANXESS) ประกาศเป็นบริษัทแรกที่ตั้งสำนักงานในศูนย์นวัตกรรมวัสดุใหม่ด้านเคมีนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

กรุงเทพมหานคร  - แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากประเทศเยอรมนี ประกาศการฉลองพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์พัฒนาแอปพลิเคชันแห่งภูมิภาค APAC (APAC Applications Development Center : AADC) แห่งใหม่ของแลนเซสส์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อุทยานอุตสาหกรรมเคมีเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Chemical Industry Park : SCIP) ณ วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ AADC จึงถือว่า เป็นโครงการแรกที่เข้ามาตั้งสำนักงานอยู่ในศูนย์นวัตกรรมวัสดุใหม่ด้านเคมีนานาชาติเซี่ยงไฮ้(Shanghai International Chemical New Materials Innovation Center) เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวหน้าไปอีกก้าวหนึ่งของแลนเซสส์ในประเทศจีน      Ming Cheng Chien ประธานแลนเซสส์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวในพิธีว่า “ปัจจุบันนวัตกรรมในท้องถิ่นได้สร้างสรรค์ให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ เป็นส่วนใหญ่ เราเล็งเห็นว่า AADC จะเป็นตัวเสริมความสามารถของเราให้แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้าในท้องถิ่นที่เพิ่มมากขึ้น แม้ขณะนี้ทั่วโลกยังคงต้องต่อสู้กับโคโรน่าไวรัส แต่วันนี้ถือว่าเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของเราที่จะเน้นย้ำความมุ่งมั่นในตลาดประเทศจีนและศักยภาพของตลาดประเทศจีนที่จะกลายเป็นตลาดเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในอนาคต”      Ma...

สอท. นำร่องโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก ตั้งเป้า 5 ปี นำขยะหมุนเวียนกลับมาใช้ได้ทั้งหมด

ปัญหาขยะพลาสติกในทะเล เป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่สะสมมานาน จนกระทั่งในปี 2015 จากการศึกษาของ Jenna Jambeck, PhD. อาจารย์ด้านวิศกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ได้ทำการจัดอันดับประเทศที่ทิ้งขยะลงสู่ทะเลมากที่สุด ผลการศึกษาพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ทิ้งขยะลงสู่ทะเลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยประเทศ 10 อันดับแรก ได้แก่ ประเทศจีน, อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ศรีลังกา, ไทย, อียิปต์, มาเลเซีย,ไนจีเรียและบังคลาเทศ ทำให้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หน่วยงาน/องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆได้เริ่มตีแผ่บทความเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติก,ขยะทะเล และไมโครพลาสติก ที่ส่งผลต่อชีวิตของสัตว์ทะเลระบบนิเวศวิทยา และยังส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากคุณสมบัติของพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูงและราคาถูก ทำให้มีการใช้พลาสติกในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกิดการใช้พลาสติกที่มากเกินความจำเป็นและพฤติกรรมการใช้อย่างไม่รับผิดชอบของมนุษย์ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกประสบปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีระบบจัดการขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ ภาครัฐบาล จึงต้องออกมาตรการต่างๆเพื่อใช้จัดการและยับยั้งปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมพลาสติก ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผู้แปรรูปวัตถุดิบได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และเห็นว่าการแก้ไขปัญหานี้จะดำเนินการโดยฝ่ายใดฝ่ายนึงมิได้ ทุกฝ่ายต้องมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันและต้องสร้างความร่วมมืออย่างเข้มเข็ง ทั้งจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ...

สภาอุตฯ ผนึกความร่วมมือ 4 องค์กรชั้นนำระดับโลก ผลักดันภาคอุตสาหกรรมสู่ไทยแลนด์ 4.0

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี และนวัตกรรมทั้งด้านการค้าการลงทุนและภาคการผลิต สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมๆ ไปกับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งมีความจำเป็นในการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ๆ และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญ และในฐานะของตัวแทนผู้ประกอบอุตสาหกรรมภาคเอกชน มีบทบาทส่งเสริมนักอุตสาหกรรม เผยแพร่ข้อมูล และเป็นแหล่งกลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรม จึงจับมือกับ 4 องค์กรชั้นนำระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการลงทุน และการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด บริษัท PwCประเทศไทย จำกัด และเฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและยกระดับภาคอุตสาหกรรมของไทยให้ก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 และสอดรับกับนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ 4 องค์กรระดับโลกว่าเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยและยกระดับขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน “ทุกวันนี้องค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้งนั้น ผู้ประกอบจะต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำมาปรับใช้กับการประกอบธุรกิจสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงต้องมีพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มาสนับสนุนองค์ความรู้เชิงลึก เพื่อยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันและเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย  ซึ่งพันธมิตรของเราทั้ง 4 องค์กร ต่างได้รับการยอมรับในระดับโลก จะมาช่วยสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการขับเคลื่อนทิศทางภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อก้าวสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” พร้อมกับพัฒนาระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน” ศ. (พิเศษ) กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บ. เบเคอร์แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาชั้นนำด้านกฎหมายอันดับหนึ่งของประเทศไทย กล่าวว่า ในยุคดิจิทัลมีธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่ตามมาก็คือประเด็นกฎหมายที่หลากหลายและซับซ้อน จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญการวางแผนกฎหมายอย่างรอบคอบ “ต้องยอมรับว่ากระแสเทคโนโลยีดิสรัปชั่น ส่งผลต่อวงการธุรกิจอย่างมาก บางธุรกิจแทบตั้งตัวไม่ทัน การทำธุรกิจในทุกวันนี้ จึงจำเป็นที่ต้องเตรียมรับมือกับความเสี่ยงในทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน การมีที่ปรึกษาทางกฎหมายเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ เรามีองค์ความรู้และนักกฎหมายที่จะช่วยผู้ประกอบการวางแผน เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล พร้อมสนับสนุนและให้คำแนะนำด้านกฎหมายกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการผลักดันโครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมไทย” นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคพีเอ็มจีภูมิไชย ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด ซึ่งได้รับความไว้วางใจและความมั่นใจในระดับโลก ด้านบริการสอบบัญชี ให้คำปรึกษาด้านภาษีและกฎหมาย และคำแนะนำด้านการบริหารธุรกิจและการลงทุน เป็นพันธมิตรที่สำคัญของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านการทำธุรกิจในอาเซียน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในภาพรวม กล่าวว่า “ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล ความต้องการของผู้บริโภค การลงทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งนวัตกรรมและเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ ส่งผลให้แต่ละองค์กรจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการไทยจะสามารถคงความเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนและมีบทบาทสำคัญระดับโลกภายใต้นโยบายผลักดัน “ไทยแลนด์ 4.0” ได้ จำเป็นต้องมีความพร้อมที่จะตอบสนองและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านั้น ด้วยประสบการณ์การให้บริการและความเชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชี ด้านภาษีและกฎหมาย และด้านที่ปรึกษาธุรกิจควบคู่ไปกับเครือข่ายที่แข็งแรงทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ทำให้เคพีเอ็มจีประเทศไทย สามารถให้คำปรึกษา สนับสนุน และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ ที่เดินเคียงข้างไปกับอุตสาหกรรมไทย เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล เราพร้อมที่จะเป็นกำลังในการขับเคลื่อนให้ไทยแลนด์ 4.0 ควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมไทย” นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย หนึ่งในเครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านภาษีและกฎหมาย และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจครอบคลุม 158 ประเทศทั่วโลก กล่าวว่า “การขยายตลาดและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจไทย ซึ่ง PwC ในฐานะหนึ่งในองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านบัญชี กฎหมายและภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ มีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี การบัญชี และอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับการค้าและ การลงทุนระหว่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมไปถึงการให้ความรู้ในการเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นที่จะให้ความรู้ด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทำธุรกิจในโลกยุคปัจจุบันด้วย” “เราหวังว่า การที่ PwC ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในพี่เลี้ยงที่จะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านโครงการพี่ช่วยน้องในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยของไทยได้upscale ตัวธุรกิจ และนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจไทย โดยเฉพาะ SME ในการแข่งขันโดยรวมของไทย ให้แข็งแกร่งยั่งยืนและทัดเทียมกับต่างประเทศต่อไป” ด้าน นางสาวโสพิส เกษมสหสิน รองประธานอาวุโส พารต์เนอร์และผู้จัดการทั่วไป เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย ซึ่งเป็นเอเจนซีด้านการประชาสัมพันธ์และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งชั้นนำระดับโลก มีความเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์การสื่อสาร โดยนำช่องทางต่างๆ มาใช้เพื่อให้การสื่อสารองค์กรได้รับการบูรณาการและเกิดความทรงพลังกล่าวถึงการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจและองค์กรซึ่งการที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรับบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางเผยแพร่ข้อมูล และส่งเสริมพัฒนานักอุตสาหกรรม จำเป็นต้องวางกลยุทธ์การสื่อสาร เพื่อให้ตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กรในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย “การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้คนในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ธุรกิจและองค์กรจึงต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเพื่อก้าวให้ทันผู้บริโภคในยุคนี้ โดยการประยุกต์ใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อใช้วางกลยุทธ์การสื่อสาร และนำช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ มาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขององค์กรให้เกิดกับผู้บริโภคอีกด้วย ในฐานะเอเจนซีผู้นำด้านประชาสัมพันธ์และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ระดับโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารแบบครบวงจรเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย มีความพร้อมในการให้คำปรึกษาและสนับสนุนก้าวใหม่ของสภาอุตสาหกรรมฯ ในการยกระดับกลยุทธ์ในการสื่อสารภาพลักษณ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กรและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับยุคสมัยแห่งดิสรัปชั่นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” ทั้งนี้ ความร่วมมือและหุ้นส่วนในการส่งเสริมองค์ความรู้จาก 4 องค์กรชั้นนำระดับประเทศ จะช่วยสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมและตอกย้ำบทบาทและภารกิจสำคัญของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมและพัฒนาการประกอบอุตสาหกรรมสู่เป้าหมายการยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความผันผวนของการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจโลก ที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต้องตั้งรับและปรับตัวได้ทันท่วงที

Stay connected

114FansLike
1,066FollowersFollow
14,700SubscribersSubscribe
- Advertisement -

Block title

Latest article

SAS เผยเทรนด์ AI เสริมความแข็งแกร่งการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อในประเทศไทย ชี้เทคโนโลยีมาแรงแต่ข้อมูลต้องมาก่อน

กรุงเทพฯ ประเทศไทย — 27 มีนาคม 2567 — SAS ผู้นำด้านซอฟต์แวร์และโซลูชันการวิเคราะห์ข้อมูล เผยกระแสการเทคโนโลยีมาแรงโดยเฉพาะเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แม้แต่ในธุรกิจกลุ่มการเงินการธนาคารและประกันภัยซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ SAS ก็มีการนำมาใช้ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในการประเมินความเสี่ยงด้านสินเชื่อ การตัดสินใจปล่อยสินเชื่อ และประสิทธิภาพของพอร์ตสินเชื่อ คุณณัฐพล อภิลักโตยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์...

นิตยสาร BUSINESS+ จับมือ ม.หอการค้าไทย จัดมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024

นิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงานมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024” รางวัลอันเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจแด่องค์กรไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศ ที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน ประจำปี 2567 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Future of AI...

เจ้าสัว ควง เจมส์-จิรายุ เสิร์ฟความฟิน พิสูจน์ความอร่อย ในแคมเปญใหม่ “Taste The Truth ข้าวตังเจ้าสัว ท้าชิมก่อนเชื่อ”

“เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” แบรนด์แอมบาสเดอร์สุดฮอตจาก “เจ้าสัว” ส่งความฟิน พร้อมชวนทุกคนพิสูจน์ความอร่อยของข้าวตังเจ้าสัว กับแคมเปญใหม่ “Taste The Truth ข้าวตังเจ้าสัว ท้าชิมก่อนเชื่อ” โดย บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ที่มาเปิดมิติใหม่ของ ‘ข้าวตังเจ้าสัว’ กับกิจกรรมทางการตลาดจัดเต็มแบบ 360 องศา...