บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยวิสัยทัศน์ที่สดใสสำหรับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเมืองต่างๆ ในประเทศไทยภายในงาน Delta Future Industry Summit ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ โดยมี นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มากล่าวเปิดงาน

ทั้งนี้ งานสัมมนา Delta Future Industry Summit ประจำปี 2561 เป็นเวทีสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจตัดสินใจ ทั้งจากภาคเอกชน ภาครัฐบาล นักวิชาการและสื่อมวลชน เพื่อเชื่อมโยงความสนใจที่มีร่วมกันในด้านเทคโนโลยีและแนวโน้มด้านอุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตของคนไทยภายใต้หัวข้อ Innovations for Smart Cities หรือ นวัตกรรมสำหรับเมืองอัจฉริยะ

นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวว่า สิ่งที่เดลต้าให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ นั่นคือ การพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งประกอบด้วย พลังงานทดแทน ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ เครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และอาคารสีเขียว

“เราต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี ที่ทำให้เมืองของเรามีความอัจฉริยะขึ้น มีความยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยเราได้เห็นการลดลงของเทคโนโลยีเก่าๆ ไปแล้วหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป สู่เทคโนโลยีอัจฉริยะ และเทคโนโลยีสะอาดเพื่อ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ชีวิตของเรา และเพื่อบริหารจัดการเมืองที่เราอาศัย แต่การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่า จะได้รับแรงผลักดันที่แท้จริงก็ต่อเมื่อ หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการเมืองต่างๆ” นายเซีย เชน เยน กล่าว

ขณะนี้ รัฐบาลไทย กระตือรือร้นที่จะเริ่มกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของชุมชนเมืองที่รวดเร็วและผลกระทบจากเมกะเทรนด์ทั่วโลก เช่น อุตสาหกรรม 4.0 และพลังงานสะอาด โดยที่งาน Delta Future Industry Summit ครั้งนี้ น่าจะมีส่วนสนับสนุน และเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับองค์กรที่มีความคิดเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน ซึ่งสามารถพัฒนาการใช้ชีวิตในเมืองและความยั่งยืนของอุตสาหกรรม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยากรในงานสัมมนาครั้งนี้ เน้นว่า เมืองอัจฉริยะ จะเป็นรากฐานที่สำคัญแก่ภูมิทัศน์เมืองของประเทศในอนาคต ด้วยการลงทุนอย่างมีนัยะสำคัญจากทั้งรัฐบาลและภาคอุตสาหกรรม โดยการจัดทำแผนผังแนวโน้มแบบกว้างๆ ในการผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นรูปแบบสำคัญของการสร้างเมืองอัจฉริยะ

สำหรับการเสวนาหัวข้อ “อนาคตสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย” เป็นเสวนาที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ โดยมีตัวแทนจากบริษัทเดลต้า การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และสมาคมไฟฟ้ายานยนต์แห่งประเทศไทย (EVAT) โดยนายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนา การไฟฟ้านครหลวง ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการคมนาคมขนส่งโดยใช้ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร นายกิตติศักดิ์ เงินงอกงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของเดลต้าด้านโซลูชั่นเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และความร่วมมือกับภาครัฐและภาคธุรกิจอื่นๆ ในการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศไทย

ส่วนช่วงการเสวนาหัวข้อ “อนาคตของเมืองต่างๆ ในประเทศไทย” โดยวิทยากรจาก บริษัทเดลต้า ธนาคารกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้คาดการณ์อย่างชัดเจนสำหรับอนาคตในอีกทศวรรษของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ทั้งนี้ ดร.ปิยะพันธ์ ทยานิธิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลจะทำให้บริการอัจฉริยะสะดวกยิ่งขึ้นและบิ๊กดาต้ามีบทบาทสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้แบ่งปันบทเรียนสำคัญๆ ที่ได้จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเมืองอัจฉริยะ และนายศักดิ์ดา แซ่อึ้ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่าย UPS และ Data Center บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ได้คาดการณ์ว่า จะมีการเพิ่มขึ้นของดาต้า เซ็นเตอร์แบบทวีคูณในภูมิภาคนี้ เพื่อเป็นขุมพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังจะเกิดขึ้น

เดลต้า ในฐานะที่เป็นบริษัทระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นนวัตกรรมสำหรับพลังงานหมุนเวียน ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และบิ๊กดาต้า และสำหรับงานสัมมนา Delta Future Industry Summit ที่จัดขึ้นนี้ เพื่อแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์เพื่ออนาคตอันยั่งยืนที่สะท้อนคำมั่นสัญญาของเดลต้าที่ว่า Smarter. Greener. Together.

บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2533 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านโซลูชั่นการจัดการพลังงานและความร้อน นอกจากนี้ เดลต้าฯ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในระดับภูมิภาคหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ ระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ระบบแสดงผลครบวงจร และระบบเครือข่าย ด้วยพันธกิจของบริษัทฯ ที่ว่ามุ่งมั่นสร้างสรรค์ นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการประหยัดพลังงานทางด้านเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ และด้วยนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาที่ทันสมัย ธุรกิจหลักของบริษัทฯ แบ่งได้ดังนี้ เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ออโตเมชั่น และอินฟราสตรัคเจอร์ บริษัทฯ มีสำนักงานขายมากมายในภูมิภาคหลักทั่วโลก โรงงานผลิตในอินเดีย สโลวาเกีย และไทย ศูนย์วิจัยพัฒนาและออกแบบในไทย อินเดีย เยอรมันและอื่นๆ อีกมากมายในหลายประเทศ

ปัจจุบัน เดลต้า (ประเทศไทย) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและในภูมิภาคเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรม รางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับ รางวัลนักธุรกิจแห่งอาเซียนด้านสุดยอดนวัตกรรม รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานดีเด่นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมจากนายกรัฐมนตรี

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here