สื่อต่างประเทศรายงานผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 โดยโรงเรียนแพทย์ Duke-NUS ในสิงคโปร์ ได้ทดสอบประสิทธิภาพและได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Infectious Disease and Therapy Journal เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยืนยันถึงประสิทธิภาพของตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19
      ทั้งนี้ ระบุว่า ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในรูปแบบน้ำยาบ้วนปาก ความเข้มข้น 1% สเปรย์พ่นปากและคอ ความเข้มข้น 0.45% น้ำยาฆ่าเชื้อความเข้มข้น 10% และ น้ำยาล้างทำความสะอาด ความเข้มข้น 7.5% มีประสิทธิภาพใช้ในการฆ่าเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในระดับหลอดทดลองได้ถึง 99.99% ภายในระยะเวลา 30 วินาที (อ้างอิง:https://link.springer.com/article/10.1007/s40121-020-00316-3
        ขณะเดียวกัน ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine) ยังได้รับการทดสอบอีกครั้ง โดยศูนย์การวิจัยและการศึกษาโรคติดเชื้อเขตร้อน (TIDREC) ที่มหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลทดสอบแสดงให้เห็นว่า ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในรูปแบบน้ำยาบ้วนปาก ที่ความเข้มข้น 1% สามารถฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2 ในหลอดทดลองได้ 99.99% ภายใน 15 วินาที โดยเผยแพร่ผ่าน British Dental Journal(BDJ) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ในนามของทันตแพทยสมาคมอังกฤษ (British Dental Association)
        นอกจากนี้ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ที่ผ่านมาได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพในหลอดทดลอง ต่อการฆ่าเชื้อไวรัสต่างๆ รวมถึงเชื้อโคโรน่าไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบาดสำคัญ อย่างโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) โดยตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) มีประสิทธิภาพสูงในการจัดการกับจุลินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จนมีการนำไปใช้ในโรงพยาบาลอย่างแพร่หลาย
       ขณะเดียวกันมีข้อแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ อย่างเหมาะสมควบคู่ไปกับการป้องกันเชื้อในแบบอื่นๆ เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด ฯลฯ ตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสาธารณสุข สามารถช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรคและโรคติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะ โรคโควิด19 ที่ยังคงมีการระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here