ความต้องการสารหน่วงการติดไฟในภาคการขนส่งจะเติบโตสูงสุด
จากรายงานล่าสุดของ Ceresana ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดนานาชาติชั้นนำ วิเคราะห์ว่า ปัจจุบัน มีการใช้สารหน่วงการติดไฟประมาณ 2.21 ล้านตันต่อปีทั่วโลก ในผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง และสิ่งทอ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสารหน่วงการติดไฟ เพราะประมาณร้อยละ 30 ของความต้องการทั่วโลกมาจากอุตสาหกรรมดังกล่าว
นักวิจัยของ Ceresana คาดว่า จนถึงปี 2024 ความต้องการสารหน่วงการติดไฟในภาคการขนส่งจะมีการเติบโตเป็นร้อยละสูงสุด อย่างไรก็ตาม วัสดุก่อสร้าง จะยังคงเป็นสาขาการใช้สารหน่วงการติดไฟมากที่สุดในอีก 8 ปีข้างหน้า
สารหน่วงการติดไฟใช้ในโฟมที่เป็นฉนวน ทำจาก EPS, XPS, PVC หรือ PUR และยังใช้ในวัสดุก่อสร้างทำจากยาง ในกาว ในสี และสีเคลือบเงา
ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ในส่วนประกอบเดี่ยว เช่น แผงวงจร เครื่องใช้ในครัวเรือน และอุปกรณ์โทรคมนาคม และยังใช้ในพลาสติกเชิงวิศวกรรม เช่น ABS, polyamide, epoxy และ polycarbonate นอกจากนี้ ยังใช้ในสายไฟ สายเคเบิล และผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
จนถึงปัจจุบัน aluminum trihydroxide (ATH) เป็นสารหน่วงการติดไฟที่ขายดีที่สุด ทั้งนี้ ATH ใช้ในอุตสาหกรรมยา เป็นสารขั้นกลางทางเคมี เป็นสารเติมเต็มในพลาสติก ยาง เครื่องสำอาง และกระดาษ เป็นสารเติมแต่งของแก้ว และในเซรามิก นอกจากนี้ ATH ยังใช้เป็นสารหน่วงการติดไฟที่ไม่ปล่อยควัน มีสารพิษต่ำ และปลอดฮาโลเจน ใช้สำหรับพลาสติก สี กาว ยาแนว และยาง โดยความต้องการ ATH ในยุโรปและในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ สูงกว่า 45%
สำหรับคอมพาวนด์ประเภทโบรมีนที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งโฟม มาเป็นอันดับสอง สารหน่วงการติดไฟ ประเภทโบรมีนมีประสิทธิผลสูง แต่ก็มีการโต้แย้ง
จากข้อกฎหมาย ทำให้มีความแตกต่างตามภูมิภาคเป็นอย่างมาก โดยในยุโรปตะวันตกและในอเมริกาเหนือ คอมพาวนด์ ประเภทโบรมีนมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 6.4% และ 12% ตามลำดับ ในขณะที่ในเอเชีย มีส่วนแบ่งตลาด 28%
Sabic เปิดตัวโคโพลิเมอร์ PC ที่ขึ้นรูปได้ มีความโปร่งแสงสูง และทนทานต่อความร้อน
บริษัทผลิตสารเคมี Sabic (ตั้งอยู่ที่เมือง Houston รัฐเท็กซัส) ได้เปิดตัวเรซินโคโพลิเมอร์โพลิคาร์บอเนตตัวใหม่ที่มีความโปร่งแสงสูง ทนทานต่อความร้อน และฉีดขึ้นรูปได้ ทั้งนี้ เรซิน Lexan CXT ตัวใหม่ ให้ความสมดุลระหว่างการทนทานต่ออุณหภูมิสูง การไหลสูง และความเสถียรของสี ภายใต้สภาพการขึ้นรูปที่ซับซ้อนมาก และค่าดัชนีความหักเหของแสงสูง
เรซินดังกล่าว เหมาะสำหรับการต้องใช้แสงในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ทั่วไป ได้แก่ เลนส์และเซ็นเซอร์ขนาดเล็กที่ตรวจจับแสงที่มองเห็นได้
ด้วย Vicat B120 ที่มีอุณหภูมิอ่อนตัวสูงถึง 190°C และอุณหภูมิการเปลี่ยนสถานะคล้ายแก้ว (Tg) สูงถึง 195°C เรซิน Lexan CXT ช่วยให้ผู้แปรรูปมีส่วนประกอบของเครื่องฉีดขึ้นรูปที่ทนทานต่อขั้นตอนการประกอบที่ยุ่งยาก เช่น การบัดกรีแบบ wave soldering บนแผงวงจรพิมพ์ ส่วนประกอบยังทนทานต่ออุณหภูมิในการใช้งานสูงเป็นเวลานาน
เรซินดังกล่าว มีค่าดัชนีความหักเหของแสงสูงกว่า 1.6 และมีความโปร่งแสงมากกว่า 89% ในเครื่องมือสเปกโตสโคปีอินฟราเรดที่มีความหนา 1 มม. จึงสามารถผลิตเลนส์เล็กมากได้ (ดังเช่นที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือ) ที่สามารถประกอบได้บนแผงวงจรพิมพ์ ที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ ของการบัดกรี ความเสถียรต่อความร้อนของวัสดุดังกล่าวยังสามารถช่วยป้องกันการเปลี่ยนรูปหรือการเปลี่ยนสี
การตอบรับของลูกค้าของ Sabic ในช่วงการพัฒนาเรซิน Lexan CXT แสดงให้เห็นถึงประโยชน์อื่นๆ ซึ่งได้แก่ การปรับปรุงผลิตภาพและค่าใช้จ่ายระบบ ผ่านทางรอบเวลาการทำงานที่สั้นลง การปรับปรุงพิกัดของขนาดความเที่ยงตรง การหยุดระหว่างการผลิตที่น้อยลง และระดับการปฏิเสธที่น้อยลง รวมทั้งศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนที่มีรูปทรงทางเรขาคณิตที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และผนังที่บางลงและยาวขึ้น เป็นต้น
เรซินชนิดใหม่จะเสริมเรซินชนิดพิเศษของโคโพลิเมอร์โพลิคาร์บอเนต ชื่อ Lexan ที่มีอยู่ เช่น EXL, XHT และ SLX resins ซึ่งมีความโดดเด่นทางด้านการทนทานต่อผลกระทบจากอุณหภูมิต่ำ การทนทานต่อความร้อนในรูปแบบที่ใสและขุ่น และการทนทานต่อการผุกร่อนตามสภาพดินฟ้าอากาศ
Trinity Packaging Corporation พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ลดคาร์บอน โดยใช้ PE ชีวภาพจาก Braskem
Leafgro เป็นวัสดุปรับปรุงดินทำจากใบไม้และหญ้าหมัก และถุง Leafgro กว่า 500,000 ใบ จะบรรจุในหีบห่อทำจากพลาสติกชีวภาพจากน้ำตาลของบริษัท Braskem โดยจำหน่ายในร้านขายปลีกสนามหญ้าและสวนตามชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
Braskem ซึ่งเป็นผู้ผลิตเทอร์โมพลาสติกเรซินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ และผู้ผลิตโพลิเมอร์ชีวภาพชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัท Trinity Packaging Corporation บริษัทในเครือของบริษัท ProAmpac โดยจะใช้โพลิเอธิลีน I’m green ของ Braskem เพื่อช่วยหน่วยงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของเขต Montgomery (Montgomery County Department of Environmental Protection หรือ DEP) ของรัฐแมรี่แลนด์ และหน่วยงานอิสระที่ให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมของแมรี่แลนด์ (Maryland Environmental Service หรือ MES) บรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนและการรักษาสิ่งแวดล้อม
Ike Leggett ผู้บริหาร Montgomery County DEP กล่าวว่า การใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสะท้อนความมุ่งมั่นของเขตฯ ที่จะปรับปรุงสิ่งแวดล้อม และปฏิบัติตามนโยบายการจัดการวัสดุที่ยั่งยืนของผู้ว่าการรัฐแมรี่แลนด์ ที่ต้องการจัดการวัสดุที่นำสมัยและเป็นองค์รวมมากขึ้น เพื่อให้มีการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณฝ่ายบริการขยะแข็ง ภายใต้หน่วยงาน MES สำหรับการเป็นผู้นำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญดังกล่าว
Montgomery County DEP ด้วยความช่วยเหลือจาก MES ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของเขตฯ ได้ค้นพบทางเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ลดคาร์บอน จากโครงการหมักเพื่อสนับสนุนพันธกิจของการหมักใบไม้และหญ้าของเขตฯ มิฉะนั้น ก็จะถูกทิ้งไป โดย MES จะเปลี่ยนขยะอินทรีย์เป็นวัสดุปรับปรุงดินที่มีค่า เพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Leafgro โดยปีที่แล้ว MES จำหน่ายถุง Leafgro ประมาณ 650,000 ใบ ในบรรจุภัณฑ์โพลิเอธิลีนดั้งเดิม แต่จากการนำของ Montgomery County DEP และการเป็นพันธมิตรโดยตรงกับ MES, Braskem และ Triniy Packaging Corporation ในเครือของ ProAmpac จะเปลี่ยนไปใช้พลาสติกชีวภาพทำจากอ้อย I’m green ของ Braskem ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคาร์บอน และจะช่วยเขต Montgomery County DEP ในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
MES ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโรงงานหมักของ Montgomery County DEP ได้ทำสัญญาผลิตถุงกับ Trinity Packaging Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกชั้นนำ และอยู่ในเครือของ ProAmpac
Roy McGrath ผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MES กล่าวว่า หน่วยงานฯ ภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับเขต Montgomery จากการที่ถุง Leafgro ใหม่จะผลิตจากพลาสติกชีวภาพจากน้ำตาล เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อม การเป็นพันธมิตรอันทรงคุณค่ากับเขตฯ เป็นการเพิ่มความสามารถของหน่วยงานฯ ในการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ โดยการผลิตผลิตภัณฑ์ Leafgro และถุงจากแหล่งทรัพยากรที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
Chris Jordan รองประธานฝ่ายขาย บริษัท Trinity Packaging Corporation ภายใต้ ProAmpac กล่าวว่า การผลิตถุงสำหรับบรรจุของหนักเชิงนวัตรรมดังกล่าว เป็นการเน้นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ในการแปรรูป สำหรับตลาดสนามหญ้าและสวน และภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Braskem และเขต Montgomery ในความพยายามที่จะบรรลุความยั่งยืนดังกล่าว
การพัฒนาโพลิเมอร์ชีวภาพชนิดใหม่สำหรับเครื่องสำอาง
บริษัท Clariant และบริษัท Global Bioenergies ผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสาขาอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการพัฒนาโพลิเมอร์ชีวภาพชนิดใหม่สำหรับเครื่องสำอางครีมและโลชั่น ทำจาก isobutene ที่หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่
ส่วนผสมใหม่ของ Clariant ที่พัฒนาด้วย isobutene จากน้ำตาลของ Global Bioenergies เป็นสารปรับปรุงคุณสมบัติรีโอโลยี ที่มีอิทธิพลต่อความหนืดของการผสมสูตร และบรรลุคุณสมบัติประสาทสัมผัสสำหรับครีมและโลชั่น
ส่วนผสมดังกล่าว ประกอบด้วยคาร์บอนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้กว่า 50% และจึงสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 16128 2016 สำหรับส่วนผสมและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้จากธรรมชาติและเป็นอินทรีย์
โพลิเมอร์ชีวภาพดังกล่าว เป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเพราะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่เปลี่ยนคุณสมบัติในการใช้ ทำให้ผู้ผสมสูตรมีทางเลือกแทนวัสดุประเภทเดียวกันจากปิโตรเลียม
โครงสร้างหลักของส่วนผสมของเครื่องสำอางใหม่ของ Clariant ปัจจุบัน ผลิตในโรงงานสาธิตของ Global Bioenergies ที่เมือง Leuna ในเยอรมนี โดยบริษัททั้งสองกำลังทำงานร่วมกันเพื่อนำไปสู่การผลิตในจำนวนมากขึ้น
Ralf Zerrer หัวหน้าการตลาดเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม หน่วยธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและผู้บริโภคชนิดพิเศษ ของ Clariant กล่าวว่า ความต้องการส่วนผสมจากแหล่งที่หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่จะไม่ไปไหน และจะเป็นค่านิยมของตราสินค้าต่างๆ ในอนาคตอันใกล้ ด้วยโพลิเมอร์ชนิดใหม่ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะขยายโอกาสซึ่งปัจจุบันจำกัดอยู่ ให้ผู้ผสมสูตรที่มองหาความยั่งยืนในการผสมสูตร ทำให้สามารถเปลี่ยนได้ทันที โดยไม่มีผลต่อคุณสมบัติหรือการใช้งาน
ขณะที่ Marc Delcourt ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Global Bioenergies กล่าวว่า isobutene ที่หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นโครงสร้างหลักที่ใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องสำอาง และบริษัทฯ ยินดีกับโอกาสสำหรับส่วนผสมชีวภาพใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดเฉพาะ