ผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศเตรียมเฮ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ลุยยกเครื่องแก้กฎหมายให้ยกเลิกอายุของใบอนุญาตรง.4 ส่งผลดีทันทีกับภาคผลิต ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องต่อใบอนุญาตแบบเดิมอีก เปลี่ยนรูปแบบใหม่ให้ผู้ประกอบการเป็นฝ่ายรับรองตนเอง ลดขั้นตอนและประหยัดเวลาอื้อ แถมปิดช่องครหาเรียกรับผลประโยชน์ทุกชนิด
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เร่งทำการปฏิรูปกระบวนการให้บริการของกระทรวงอุตสาหกรรมทุกมิติเพื่อรองรับนโยบายปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงงานไปแล้วเกือบทุกด้านโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใสทุกขั้นตอน และล่าสุดที่กำลังทำก็คือจะปลดล็อคกระบวนการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ใหม่ ซึ่งจะให้กับผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศกว่า 80,000 รายสามารถดำเนินธุรกิจต่อเนื่องโดยไม่ติดขัดเรื่องนี้อีกต่อไป
กฎหมายเดิมกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องเป็นฝ่ายทำเรื่องเสนอให้กระทรวงพิจารณา มีขั้นตอนและใช้เอกสารประกอบการยื่นคำขอค่อนข้างมาก ซึ่งเมื่อยื่นเรื่องแล้วก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาความถูกต้องของเอกสาร จากนั้นจึงจะนัดหมายไปตรวจโรงงาน หากพบว่าไม่เรียบร้อยก็ต้องแก้ไขปรับปรุงและต้องกลับไปตรวจโรงงานอีกครั้ง กระบวนการเดิมใช้เวลามากจึงทำให้ไม่สะดวกและเกิดความล่าช้ากับผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศ ซึ่งในระยะเวลา 5 ปีจาก 2562-2566 มีโรงงานต้องดำเนินการมากกว่า 80,000 แห่งทั่วประเทศ สิ่งเหล่านี้ผมเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการต่างต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการต่ออายุใบอนุญาต เพื่อให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างถูกต้อง และปิดช่องไม่ให้มีการกล่าวอ้างเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐมีการแสวงหาประโยชน์
แนวทางใหม่ที่จะแก้ไข ถือว่าเป็นการปฏิรูปใหญ่แบบเบ็ดเสร็จก็คือการยกเลิกอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ไม่ใช่เป็นการแก้ไขรายละเอียดของกฎหมายการต่ออายุใบอนุญาต เรียกว่าแก้ที่ต้นทางคือเมื่อยกเลิกอายุของใบอนุญาตก็เท่ากับไม่จำเป็นต้องมีการต่ออายุเช่นเดิมอีกต่อไป ทั้งนี้จะเปลี่ยนหลักการเป็นให้ผู้ประกอบการโรงงานเป็นฝ่ายรับรองตนเองหรือ Self-declared ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องแสดงข้อมูลเพื่อรับรองตนเองว่าการประกอบกิจการได้มีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยกำหนดให้มีการแจ้งข้อมูลที่จำเป็นต่อการควบคุมกำกับดูแลทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม และจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ตรวจสอบเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่ตรวจโรงงานกับกระทรวงอุตสาหกรรม (Third Party) ไปทำการตรวจภายหลังและเป็นผู้รับรองข้อเท็จจริงความถูกต้องอีกขั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการรับรองเท็จ
“มาตรการนี้จะส่งผลดีชัดเจนแบบ 2 เพิ่ม 2 ลด คือ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ ลดระยะเวลาการทำเรื่องขอใบอนุญาตแบบเดิม และลดปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องความโปร่งใสในกระบวนการต่อใบอนุญาต ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงก็คือผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศประมาณ 80,000 ราย ที่สำคัญ ผมมั่นใจว่า มาตรการนี้จะช่วยสร้างความสนใจดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกมาลงทุนเพิ่มในประเทศไทยได้มาก โดยผมจะให้เร่งนำเสนอแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภายในเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีผลบังคับใช้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ประกอบการในต้นปีหน้า” นายอุตตม กล่าวในที่สุด