กรีนลาเท็กซ์ ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพาราธรรมชาติเพื่อสุขภาพคุณภาพสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เผยความสำเร็จ 14 ปีที่ผ่านมากับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมขยายฐานการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจด้วยโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูง ทันสมัย และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรุกตลาดผลิตภัณฑ์ยางพาราครบวงจร โดยตั้งเป้ารายได้ 1.7 พันล้านบาทสิ้นปี 2562
นายกัณฑ์กณัฐ แสนสุกวิหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนลาเท็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการตลาดในปี 2562 ที่บริษัทวางไว้ เราตั้งเป้าเป็นผู้นำแบรนด์เบอร์หนึ่งของตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ไม่เฉพาะหมอนและที่นอนที่ทำมาจากยางพาราเท่านั้น ปีนี้เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนวัตกรรมหมอนและที่นอนที่มีคุณภาพในหลากหลายระดับราคา ตอบสนองผู้บริโภคทุกตลาด ด้วยวิสัยทัศน์ “เราจะไม่หยุดพัฒนาเพื่อส่งต่อสุขภาพการนอน และคุณภาพชีวิตที่ดี สู่คนทั่วโลก”
ในส่วนสินค้ากลุ่มยางพารา จะมีการพัฒนารูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มเดิม แต่จะขยายออกไปในสินค้ากลุ่ม Living และ Lifestyle ด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายตลาดส่งออกไปสู่กลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่มีประชากรจำนวนมากและมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีสินค้าเครื่องนอนให้เลือกหลากหลายมากนัก เราจะนำสินค้ากลุ่มยางพาราเข้าไปทำตลาดกลางและบน ภายใต้แบรนด์ของไทยและการโปรโมทผลิตภัณฑ์ยางพาราแท้ของและผลิตโดยโรงงานในไทยที่ได้มาตรฐานระดับโลก
ทั้งนี้ ในส่วนโรงงานและโชว์รูมใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือนเมษายน ขณะนี้เหลือแค่ในส่วนของอาคารสำนักงาน (Office Building) ส่วนในสายการผลิตดำเนินการเสร็จแล้วและสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงแล้ว ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับโรงงานเก่า ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการใช้น้ำยางข้นประมาณปีละ 12,000 ตัน สามารถผลิตหมอนยางพาราได้ปีละ 3 ล้านใบ ที่นอน 3 แสนชิ้นต่อปี สำหรับงานเปิดตัว Grand Opening วางแผนไว้ว่าจะจัดในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 นี้
สำหรับโรงงานใหม่แห่งนี้ ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยเป็นโรงงานและโชว์รูมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการวางระบบที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการผลิตอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง มีความทันสมัย และวางไลน์ผลิตต่างๆ เพื่อรองรับการพัฒนาระบบ Automation ซึ่งเรามีทีมในการพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้การผลิตได้มาตรฐาน ลดการเกิด Human Error และใช้ระบบ Scada มาจับข้อมูล เพื่อควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐาน ที่สำคัญบริษัทให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการลงทุนในส่วนโครงสร้างของตัวตึก เพื่อให้รองรับการวาง Solar Roof เพื่อประหยัดพลังงานและลงระบบ ASRS คลังอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแผนงานที่จะทำต่อในช่วงประมาณไตรมาส 3-4 นี้
ด้าน นางจิรวดี อังศุมาลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน ลาเท็กซ์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงบการตลาดในปี 2562 บริษัทฯ จะวางแผนทุ่มงบประมาณในส่วนของการตลาดและประชาสัมพันธ์กว่า 30 ล้าน เพื่อเปิดตัว New Factory ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งยังวางแผนบุกตลาดครบทุกช่องทาง ทั้งในช่องทางปัจจุบันที่ทำอยู่ และช่องทางใหม่ เช่น E-Commerce และตลาดต่างประเทศโดยแผนงานทั้งหมดนี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่บริษัทตั้งเป้าว่า ปีนี้ จะเติบโตขึ้น 30% จากปี 2561 โดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท
ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลที่ทำให้ธุรกิจเติบโต คือ ปีนี้ เราจะเน้นบุกตลาดส่งออกที่เป็น New Market และยังไม่ค่อยรู้จักสินค้าเครื่องนอนจากยางพารามากนัก โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่มีจำนวนประชากรสูง ได้แก่ India / USA และประเทศในกลุ่ม Middle East ซึ่งมีกำลังซื้อสูง สำหรับตลาด India เราก็ได้ลูกค้าส่งออกมาแล้วจำนวนหนึ่ง เพราะเริ่มบุกตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนตลาดกลุ่ม AEC ก็ยังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวแทนจำหน่ายของ Green Latex แล้วที่กัมพูชา และมีโชว์รูม 2 แห่งที่พนมเปญและเสียมเรียบ และภายในไม่เกินไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะมีตัวแทนและเปิดโชว์รูมที่เวียดนาม ต่อจากนั้น เริ่มบุกตลาดเมียนมาต่อไป ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทประมาณ 80% คือลูกค้า OEM ตลาดต่างประเทศ โดยได้ผลิต OEM ภายใต้ brand ของลูกค้าให้กับแบรนด์ใหญ่ๆหลายแบรนด์ในประเทศจีนและเกาหลี รวมทั้งผลิตสินค้า House Brand ให้กับห้างใหญ่ๆ หลายห้างในเมืองไทยด้วย นอกจากผลิต OEM ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าแล้ว ยังมีสินค้า House brand ของเราเองอยู่ถึง 7 แบรนด์เพื่อเข้าไปขายใน Modern Trade ต่างๆ ทั่วประเทศ และขายในตลาดกลุ่ม AEC ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก คือผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ผลิตจากยางพารา ไม่ว่าจะเป็น หมอน / ที่นอน / Topper / ผ้าห่ม / เครื่องนอนเด็กแรกเกิด ไปจนถึงพวก Accessories ต่างๆ เช่น เบาะพิงหลัง เบาะรองนั่ง หมอนล็อคคอ เป็นต้น นอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องนอนกลุ่มยางพาราแล้ว เรายังมีโรงงานผลิตกลุ่มที่นอนสปริง และยางพาราอัดด้วย อย่างไรก็ตามในปีนี้ เราตั้งใจจะแตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ และเสนอที่นอนรุ่นใหม่ที่มีการเรียงชั้นวัสดุอย่างเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มอีกด้วย
นางจิรวดี กล่าวต่ออีกว่า จุดแข็งของกรีนลาเท็กซ์ คือ ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายออกสู่ตลาด แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่เป็นผู้ผลิตเองทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและเสนอราคาที่พอเหมาะให้กับลูกค้าได้ นอกจากนั้นกรีนลาเท็กซ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการมีกำลังการผลิตสูง และมีสต็อคสินค้า ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังมีการให้บริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ การผลิต ไปจนถึงการจัดส่งที่เรามีฟลีทรถจัดส่งของเราเองหลายขนาด ตั้งแต่รถบรรทุกหัวลาก รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถกระบะ เพื่อให้ครอบคลุมการจัดส่งทุกพื้นที่
โดยมองว่า ตลาดเครื่องนอนยางพารามีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะในฝั่งตลาดทัวร์ Shop และตลาด E–Commerce ในประเทศจีนและเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของหมอนที่นอนยางพารา มีการแข่งกันลดราคาอย่างต่อเนื่องเพื่อครองตลาด แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัท ยังอยู่ได้เพราะเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่เคยลดต้นทุนโดยการเลือกวัตถุดิบไม่ดีหรือราคาต่ำมาผลิตสินค้า แต่เราเลือกพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองและต้นทุนการผลิตที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สามารถเสนอสินค้าที่ราคาสมเหตุสมผลให้กับลูกค้าได้
“นอกจากนั้น เรายังเน้นการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนกับลูกค้า ผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มโอกาสการขายและลดภาระการแบกสต็อคของลูกค้า อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาดให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ลูกค้า OEM ทุกราย จึงยังอยู่กับเราตั้งแต่เปิดโรงงานจนถึงปัจจุบัน ส่วนลูกค้าใหม่ ก็พึงพอใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง”