ระดมทัพ 6 หน่วยธุรกิจจัดแสดงผลิตภัณฑ์สำหรับการเดินทางยุคใหม่ (New Mobility) การเป็นเมือง (Urbanization) และการทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)
กรุงเทพมหานคร – วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 : แลนเซสส์ (LANXESS) ผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษของโลก พร้อมนำเสนอความก้าวหน้าใหม่ ๆ ด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการและเทคโนโลยีของ 6 หน่วยธุรกิจ ที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมในงาน “K 2019” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกและยางจัดขึ้น ณ เมืองดึสเซิลดอร์ฟ(Düsseldorf) ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม พ.ศ. 2562 โดยแลนเซสส์ได้จัดสรรพื้นที่ 700 ตารางเมตร เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านการเดินทางยุคใหม่ (New Mobility) การเป็นเมือง (Urbanization) และการทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)
“โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมทางด้านการเดินทางแบบใหม่และแนวคิดเรื่องเมืองยุคใหม่ กำลังได้รับการพัฒนาและเป็นที่นิยมกันทั่วโลก ซึ่งเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างมากสำหรับเราและลูกค้าของเรา เรากำลังมุ่งพัฒนาโซลูชั่นและเทคโนโลยีวัสดุที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าวนี้ และยังมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้ใหม่ในเรื่องการทำให้เป็นดิจิทัล” มร. ฮิวเบิร์ต ฟินค์ (Hubert Fink) สมาชิกคณะผู้บริหารของแลนเซสส์ กล่าว
โดยในงานนี้ แลนเซสส์ได้ระดม 6 หน่วยธุรกิจจากทั้งหมด 11 หน่วยธุรกิจของแลนเซสส์ได้แก่ – วัสดุประสิทธิภาพสูง (High Performance Materials) , Urethane Systems, สารเติมแต่งโพลิเมอร์ (Polymer Additives), Rhein Chemie, เม็ดสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments) และตัวกลางอุตสาหกรรมขั้นสูง (Advanced Industrial Intermediates) มาร่วมจัดแสดงและโชว์ผลิตภัณฑ์ของแต่ละหน่วยธุรกิจที่งาน K 2019
ชมภาพ virtual booth tour ของ LANXESS ในงาน K 2019 ได้ที่ https://k2019.lanxess.com/
โพลีเอไมด์และโพลีเอสเตอร์เพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน (sustainable mobility)
หน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (HPM) จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Mobility)
“วัตถุประสงค์ของเราในการพัฒนาวัสดุประสิทธิภาพสูงคือการช่วยให้ระบบขับเคลื่อนประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยระบบไฟฟ้าสามารถเข้าสู่ตลาดได้ เรากำลังมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีรูปแบบการเดินทางที่แตกต่างกัน จากยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบ Mild Hybrid และ Plug-in Hybrid ไปจนถึงยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การพัฒนาของเรายังมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มการขับเคลื่อนในอนาคตอย่างเช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยการเชื่อมต่อผ่านระบบดิจิทัล” มร.ไมเคิล โซเบล (Michael Zobel) หัวหน้า HPM กล่าว
วัสดุ HPM ใหม่ ๆ ประกอบด้วย สารประกอบที่ทนความร้อนคงที่ได้สูงถึงในระดับที่เปล่งแสงสีส้มซึ่งใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง (High-voltage Applications) ,วัสดุป้องกันการกัดกร่อนทางไฟฟ้าเมื่อสัมผัสกับชิ้นส่วนโลหะขณะทำงาน และวัสดุทนไฟที่ปราศจากสารฮาโลเจน (Halogen-free, Flame-retardant Materials) ที่ใช้ทำส่วนประกอบเช่น ตัวยึดเซลล์แบตเตอรี่และแผ่นครอบ
แลนเซสส์ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี Hallow Profile และคอมโพสิตเทอร์โมพลาสติก ภายใต้แบรนด์“Tepex” ช่วยให้สามารถออกแบบวัสดุที่มีน้ำหนักเบาลง ในเรื่องนี้ คุณโซเบลได้อธิบายว่า “ผลิตภัณฑ์วัสดุสารประกอบ (composite material) ของเรานั้นถูกนำไปใช้ในการผลิตส่วนประกอบมีน้ำหนักเบาและผลิตได้คราวละมาก ๆ ซึ่งมีการนำไปใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“ภายในงาน K 2019 เราจะนำเสนอตัวหุ้มเบาะที่นั่ง (Seat Shell) ที่มีคุณสมบัติความทนทานสูงและโครงหลังคาด้านหน้า (front-end carrier) ที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นเอกภาพ ซึ่งผลิตจากวัสดุ Tepexทำให้ทั้งคู่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถทนทานต่อการชนได้อย่างยอดเยี่ยม” มร.โซเบล กล่าว
สารประกอบใหม่ใช้ในการเป่าขึ้นรูปเพื่อผลิตส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ ในงาน K 2019 ยังมีการแสดงสารประกอบใหม่สำหรับใช้ในการเป่าขึ้นรูปเพื่อผลิตส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการจัดการอากาศในเครื่องยนต์สันดาปเทอร์โบชาร์จ (Turbocharged Combustion Engines) และปลอกสูบ (Liners) สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและก๊าซธรรมชาติ
“ที่ศูนย์เทคนิคของเราในเมืองดอร์มาเจน (Dormagen) เราได้สร้างระบบเป่าขึ้นรูปพลาสติกที่ทันสมัยและจัดตั้งทีมงานระดับโลกที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนาวัสดุสำหรับการใช้งานพิเศษนี้ ” มร.โซเบล กล่าว
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการเป็นเมือง (Urbanization)
ด้านผลิตภัณฑ์สำหรับเชื่อมต่อ (Connectors) และสวิตช์ (Switches) ในระบบสมาร์ทโฮมล้ำสมัย แลนเซสส์มีสารประกอบโพลีอะไมด์ 6 ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Durethan BG60XXF นับเป็นวัสดุที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นพลาสติกที่บิดงอได้น้อย (Low-warpage Plastic) จึงถูกนำไปใช้เป็นตัวยึดสวิตช์ (switch holders) ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เพื่อทำการผลิตในโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุนี้จากแลนเซสส์ ทำให้ส่วนประกอบที่ผลิตได้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่สูงมากในเรื่อง planarity, dimensional tolerance และความแข็งแกร่ง (rigidity)
ขณะที่ หน่วยธุรกิจ Urethane Systems ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกในการผลิต Polyurethane (PU) Prepolymers ตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะแต่ละรายและการนำไปใช้งานเฉพาะด้านและใช้สำหรับทำอีลาสโตเมอร์, สารเคลือบ, กาวและสารยึดติด ได้เข้าร่วมงาน K 2019 เช่นกัน โดยมุ่งแสดง Low Free (LF) Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใช้ในการพัฒนาสูตร (Formulate) ในการผลิต PU Prepolymers ที่มีส่วนผสมของไอโซไซยาเนตน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยอุตสาหกรรมที่เข้มงวดที่สุด
“สาร Adiprene LF Prepolymers ของเราไม่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดในเรื่องการจำกัดการใช้สารไดไอโซไซยาเนต (Diisocyanates) ในขณะเดียวกันเราได้ปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกลของผลิตภัณฑ์ PU และในอนาคตเราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Adiprene LF รวมถึง MDI-based ทุกรายการให้มีไอโซไซยาเนตที่น้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์” มร.มาร์กัส เอคเคอร์ท (Markus Eckert) หัวหน้าหน่วยธุรกิจ Urethane Systems กล่าว
สำหรับไฮไลท์ของการจัดแสดงสินค้าของหน่วยธุรกิจนี้ได้แก่ รถเหาะตีลังกาที่มีล้อทนทานต่อการขัดถูขีดข่วนและมีความยืดหยุ่นสูง ด้วยการเคลือบสาร Adiprene LF pPDI เช่นเดียวกับล้อที่ทนทานต่อความร้อนและความชื้น โดยเคลือบสาร Adiprene LF TDI สำหรับใช้ในระบบสายพานลำเลียงและตัวแยกในโรงงานรีไซเคิลที่ทันสมัย
สารหน่วงไฟตัวใหม่สำหรับวัสดุฉนวน
หน่วยธุรกิจสารเติมแต่งโพลีเมอร์ (PLA) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกทางด้านผลิตภัณฑ์สารหน่วงไฟที่ใช้สารโบรมีนและฟอสฟอรัส ภายในงาน K 2019 จะนำเสนอสารหน่วงไฟสองชนิดสำหรับโฟมโพลิไอโซไซยานูเรต (PIR) แบบแข็ง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบการทนไฟตามมาตรฐาน ISO 11925-2 – ได้แก่ Oligomeric Levagard 2000 และ Reactive Levagard 2100
“สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราล้ำหน้ากว่าสารหน่วงไฟของผู้ผลิตรายอื่นคือแทบจะไม่มีการระเหย (Barely Volatile) และแสดงผล Plasticizing Effects เพียงเล็กน้อย” มร.การ์สเติน จอบ (KarstenJob) หัวหน้าของ PLA อธิบาย
ในขณะเดียวกันแลนเซสส์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Emerald Innovation 3000 ซึ่งเป็นสารหน่วงไฟโพลีเมอร์โบรมีนสำหรับโพลีสไตรีน (Polystyrene) ที่ขยายเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนสาร Hexabromocyclododecane (HBCD) ซึ่งไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหภาพยุโรป
ป้องกันโอโซนอย่างได้ผล ช่วยเสริมแรงให้ยางและสะท้อนรังสีอินฟราเรด
Antioxidants และ Antiozonants จะเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับหน่วยธุรกิจตัวกลางอุตสาหกรรมขั้นสูงในงาน K 2019 โดยมี Vulkazon AFS ซึ่งเป็นสาร Antiozonant สำหรับน้ำยางธรรมชาติ, ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ที่ป้องกันการแตกร้าวที่เกิดจากผลกระทบของโอโซนและไม่ทำให้เกิดคราบ
ด้านหน่วยธุรกิจ Rhein Chemie จะจัดแสดง Aramid-Fiber–Reinforced Masterbatches ตัวใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Rhenogran P91-40 สำหรับผลิตสินค้ายางทางเทคนิค เช่นซิลิโคนที่ทนความร้อน มีความทนทานสูงและทนการขีดข่วน อย่างเช่นแหวนและซีล
ส่วนหน่วยธุรกิจเม็ดสีอนินทรีย์ จะนำเสนอเม็ดสีดำ ซึ่งจะช่วยสะท้อนรังสีอินฟราเรด (Infrared) ในแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 20% เมื่อเทียบกับเม็ดสีดำทั่วไป เหมาะสำหรับหลังคาและอาคารพลาสติก เนื่องจากมีศักยภาพสูงในการลดอุณหภูมิภายในอาคาร
ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์พัฒนาผลิตภัณฑ์
แลนเซสส์ (LANXESS) ตั้งเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคตให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตามโมเดลธุรกิจดิจิทัล จะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) และทำการวิเคราะห์ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมาก บริษัทกำลังใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างสูตรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ การกำหนดขนาดใยแก้ว (glass-fiber sizings) ที่ใช้ในการเสริมแรงในพลาสติก
ในโครงการนี้แลนเซสส์ได้ร่วมมือกับ Citrine Informatics บริษัท AI ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเรดวูดซิตี้ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเรื่องนี้ มร.โซเบล (Michael Zobel) หัวหน้าของ HPM ยังกล่าวว่า “เราต้องการลดเวลาในการพัฒนาสูตรโดยปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเวลาที่ลดลงมากกว่าครึ่งเพื่อที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น”
สร้างเศรษฐกิจแบบวงกลมกับพันธมิตรทั้งหมดในห่วงโซ่คุณค่า
แลนเซสส์ มุ่งมั่นที่จะสร้างวัฏจักรการใช้วัสดุแบบลูปปิด (Closed-loop Materials Cycles) ในอุตสาหกรรมการผลิตและการใช้งานพลาสติก โดยบริษัทฯ กำลังร่วมทำงานกับลูกค้าและผู้ซื้อในการเริ่มต้นโครงการนำร่องดังกล่าวนี้
“การจัดตั้งวงจรวัฏจักรวัสดุเพื่อที่จะอนุรักษ์ทรัพยากร ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีที่พันธมิตรทั้งหมดในห่วงโซ่คุณค่าทำงานร่วมมือกัน หนึ่งในเป้าหมายของเราคือการออกแบบพลาสติกตั้งแต่แรกเริ่มในลักษณะที่ง่ายต่อการนำมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่” มร.โซเบล กล่าว
อนึ่ง แลนเซสส์ เป็นบริษัทผู้นำอุตสาหกรรมสารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) มียอดรายได้รวมกว่า 7.2 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2561 และมีพนักงาน 15,500 คนอยู่ใน 33 ประเทศทั่วโลก มีโรงงานทั่วโลกถึง 60 แห่ง ธุรกิจหลักของแลนเซสส์ คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) และพลาสติก
นอกจากนี้ แลนเซสส์ยังเป็น บริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good
สำหรับ LANXESS China เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2548 LANXESS Chemical (China) Co.,Ltd ได้จดทะเบียนใน Frankfurt Stock Exchange และเริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการ โดยในปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 15 บริษัท มีศูนย์วิจัย 7 แห่งและโรงงานผลิต 7 แห่ง มีพนักงานประมาณ 1,500 คนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งแลนเซสส์ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในท้องถิ่นเพื่อจะพัฒนาโซลูชั่นโดยให้ความสำคัญต่อตลาด มุ่งตอบสนองความต้องการของตลาดในท้องถิ่น