โดย นายศตพร สภานุชาต สถาบันพลาสติก
ราคาเม็ดพลาสติกเริ่มฟื้นตัวจากเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จากมาตรการขยายเวลาการเข้าควบคุมปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC รวมถึงแนวโน้มการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จากความต้องการบริโภคน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ระดับอุปสงค์เม็ดพลาสติกในตลาดเอเชียกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศจีนที่ภาคการผลิตเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่กลับเข้ามามากกว่าเดือนก่อน ส่งผลให้ระดับอุปทานเม็ดพลาสติกภาพรวมปรับลดลง
ความเคลื่อนไหวตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหมวดเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนกรกฎาคม 2019 บ่งชี้ว่าการผลิตเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเริ่มฟื้นตัวตามอุปสงค์ตลาดส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ในเดือนนี้
มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาในอัตรา +6.3% จากการส่งออกไปประเทศจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเทียบในมิติ YoY มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกยังคงติดลบถึง -10.6% แต่การส่งออกเชิงปริมาณกลับขยายตัวได้ที่ +13.8% ด้วยสาเหตุจากระดับราคาเม็ดพลาสติกเฉลี่ยที่คงตัวในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง -20.3% ส่งผลให้ภาคมูลค่าเกิดการหดตัวที่ชัดเจน ทางด้างการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก ขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาได้เล็กน้อยในอัตรา +1.6% จากการส่งออกไปยังตลาดหลักอย่าง ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้มากขึ้นในอัตรา +2.1% และ +5.1% ตามลำดับ สำหรับตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวอยู่ เป็นผลจากการถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยระดับราคาเม็ดพลาสติกในปีนี้ที่เคลื่อนไหวในแนวต่ำแล้ว ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีทิศทางถดถอยอย่างชัดเจน สะท้อนจาก Global PMI ที่หดตัวต่อเนื่องมานานกว่า 12 เดือน ซึ่งคงระดับที่ 49.3 จุด ในเดือนนี้ รวมถึงตลาดคู่ค้าสำคัญของไทยส่วนมากหดตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลกเช่นกัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบทางตรงกับอุตสาหกรรมการผลิตไทยที่จะเป็นเครื่องชี้วัดการเติบโตของอุตสาหกรรมพลาสติกไทยได้ในอีกทางหนึ่ง