เปิดตัวโครงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Solar Rooftop เข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือน สร้างความตระหนักปลูกจิตสำนึก และเกิดการมีส่วนร่วมในเรื่องพลังงานสะอาด โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เปิดกิจกรรมเชิงรุก นำความรู้ภาคทฤษฏีถ่ายทอดสู่การปฏิบัติได้จริง ผ่านกิจกรรมสื่อเคลื่อนที่ที่กลุ่มเป้าหมายจะได้มีส่วนร่วมและทดลองปฏิบัติ พร้อมดึงธุรกิจอสังหาฯ กว่า 200 หมู่บ้าน ให้มีส่วนร่วมพลังงานสะอาด โดยมี นายกิตติพงษ์ ภิญโญตระกูล รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ เป็นประธานเปิดงาน
นายสุเมฆ ปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย(AEITF) กล่าวว่า มูลนิธิได้รับการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้าตามมาตรา 97(5) ผ่านการดำเนินโครงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Solar Rooftop เข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือน (Solar Move ) โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญๆ อาทิ เพื่อส่งเสริมสังคมและประชาชนกรุงเทพฯและปริมณฑลในหมู่บ้านจัดสรรประมาณ 200 โครงการ ประมาณ 10,000 ครัวเรือนให้มีความรู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดกล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทกานดาฯ ได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาเซลล์ในพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้านจัดสรรร่วมกับกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่แล้วนำมาใช้ในตอนกลางคืน นอกจากนั้นมีการทดลองติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่สำนักงานขาย ขนาด 10 KW ทำให้ประหยัดไฟเดือนละหลายพันบาท สำหรับโครงการหมู่บ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวที่เข้าร่วมโครงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Solar Rooftop เข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนประมาณ 3 โครงการ รวมกันประมาณกว่า 1,000 ครัวเรือน ประกอบด้วยโครงการไอลีฟ พาร์ค พระราม 2 กม.14 จำนวน 379 หลัง โครงการสยามเนเชอรัลโฮม พระราม 2 กม.17.5 จำนวน 283 หลัง และโครงการไอลีฟ พาร์ค วงแหวน-รังสิตคลอง 4 จำนวน 422 หลัง
สำหรับบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ได้ส่งโครงการบ้านจัดสรรเข้าร่วมโครงการ Solar Move ประมาณ 19 โครงการ ประมาณ 4,000 หลัง ซึ่งมีบ้านหลายแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บ้านเดี่ยวแบรนด์มัณฑนา, ชัยพฤกษ์, พฤกษ์ลดา, ชลลดา และอินนิซิโอ
บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)หรือ QH ได้ส่งโครงการบ้านจัดสรรเข้าร่วมโครงการ Solar Move ประมาณ 30 โครงการ ประมาณ 3,000 หลัง บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A ได้ส่งโครงการบ้านจัดสรรเข้าร่วมโครงการ Solar Moveประมาณ 10 โครงการ ประมาณ 1,000 หลัง บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ได้ส่งโครงการบ้านจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเข้าร่วมโครงการ Solar Moveประมาณ 10 โครงการ ประมาณ 1,000 หลัง อาทิ เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา , เสนาทาวน์ 1 รามอินทรา, เสนาช็อปเฮาส์ บางแค-เทิดไท และโครงการเสนาอเวนิว บางกะดี่ ฯลฯ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ได้ส่งโครงการบ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวเข้าร่วมโครงการ Solar Move ประมาณ 10 โครงการ
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนให้มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทยร่วมออกบูธจัดกิจกรรมเคลื่อนที่สำหรับโครงการ Solar Move ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 (Motor Show 2020) ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-5 เม.ย.2563 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานีกล่าวว่า การจัดทำโครงการ Solar Move เข้ากับกระแส PM 2.5 ซึ่งประเทศเราไม่เคยพบมาก่อน ในระยะช่วงปีหลังๆ นี้ฝุ่นและมลพิษต่างมีส่วนทำลายในชั้นบรรยากาศของโลกมากๆ มากจนถึงเรามีความรู้สึกว่า มีความจำเป็นหรือถึงเวลาแล้ว เนื่องจากเราปล่อยปละละเลยเรื่องของพลังงานสะอาดหลายประเภท เพราะฉะนั้นพอเราหันมาใช้โซลาร์เซลล์แล้วก็จะช่วยลดการใช้พลังงานด้านอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโลก และลดความมักง่าย เพื่อมาใช้พลังงานเงียบคือ พลังงานแสงแดดที่เราปล่อยทิ้งไปอย่างน่าเสียดายซึ่งไม่เคยสนใจตลอดชีวิตของเรา ทั้งที่มีพลังงานมากมาย หลายคนมาสนใจตอนนี้ก็ไม่ได้สายเกินไป และต้องสอนลูกๆ หลานๆ ว่าสิ่งที่ใกล้ตัวของเรามากที่สุดตอนนี้คือ “พลังงานแสงอาทิตย์”
อนึ่ง สำหรับผู้บริหารบริษัทอสังหาฯ ที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวประกอบด้วย คุณวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการอาวุโส คุณสุธรรม โอฬารกิจอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอท โซลาร์ จำกัด บริษัทในเครือ SENA บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ คุณหัสกร บุญยัง กรรมการบริษัทและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดคุณเจษฎา ลักขีพินิศกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบมจ. เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง คุณสุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล หัวหน้าสายงานบริหารลูกค้า และการพัฒนาอย่างยั่งยืน บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
สถานการณ์การการใช้ไฟฟ้าของไทยปี 2562 (ช่วง ม.ค.-พ.ย.)
ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เวลา 14.27 น. อยู่ที่ระดับ 37,312 เมกกะวัตต์ (MW) การใช้ไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งเป็นปริมาณไฟฟ้าในแต่ละชั่วโมงตลอดทั้งปีมีหน่วยเป็นล้านหน่วย (GWh) อยู่ที่ 178,602 GWh หรือกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 3.4% โดยภาคครัวเรือนยังคงเติบโตสูงสุดที่ 10.1% ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ลดลงที่ 1.7% สาขาอุตสาหกรรม มีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้า 45% มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสาขาอื่น แต่การใช้ลดลงที่ 1.7% โดยอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะพื้นฐาน และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีการใช้ไฟฟ้าลดลง 10.2% และ 6.0% ตามล้าดับ สอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน2562 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.27 อยู่ที่ระดับ96.77 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก ท้าให้มีค้าสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง ประกอบกับกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากสถาบันการเงินเข้มงวด ในการปล่อยสินเชื่อ สาขาธุรกิจ มีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้า 25% การใช้เพิ่มขึ้น 6.0% โดยกลุ่มธุรกิจหลักที่มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้แก่ อพาร์ตเมนต์และเกสต์เฮาส์ โรงแรมและห้างสรรพสินค้า 14.9% 3.3.% และ 3.2% ตามล้าดับ สะท้อนจากจ้านวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีจ้านวน 3.36 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก โดยขยายตัวร้อยละ 18.3 ต่อปี นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นที่ขยายตัวได้ดี อาทิ นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน อินเดีย และรัสเซีย สาขาครัวเรือน มีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้า 26% การใช้เพิ่มขึ้น 10.1% สอดคล้องกับดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 42.0 ขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 41.8 ในเดือนตุลาคม