เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 กรมการท่องเที่ยว ได้จัดงานประชุมคืนผลการศึกษา ภายใต้ “โครงการการศึกษาความเป็นไปได้และกำหนดรูปแบบการจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายอย่างยั่งยืน” ด้วยแนวทางการขับเคลื่อน “การท่องเที่ยวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน กับเส้นทางสู่การเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมในมาตรฐานสากล” (Sustainable Tourism Futures: Linking Social Enterprise to Global Standard)
กรมการท่องเที่ยว ผู้ริเริ่มโครงการฯ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางการจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทราย อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อุทยานธรณี เนินทรายอย่างยั่งยืนในอนาคต ครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยว มีความมุ่งหวังให้เกิดรูปแบบ (Model) การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบอย่างยั่งยืน และแผนดำเนินวิสาหกิจเพื่อสังคมแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายอย่างยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม และการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมสามารถสร้างความเป็นธรรมทางรายได้จากท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชุมพร รวมถึงจัดทำคู่มือแนวทางสำหรับการจัดตั้งและการบริหารจัดการวิสาหกิจเพื่อสังคม
สำหรับการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลไกการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยผู้ประกอบการควรคำนึงถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับสากล หรือ ระดับประเทศ เพื่อให้เห็นความต้องการที่แท้จริงของสังคม และการคิดโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องต่อการพัฒนา ในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ประเทศไทยเดินหน้าในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจนในแผนการดำเนินงาน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าหาหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อสร้างเครือข่ายในการทำธุรกิจเพื่อสังคมได้อีกด้วย โดย มองการพัฒนาเป็น 3 ระดับ ได้แก่ การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในระดับสากล (Global Sustainable Tourism Criteria) การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ และการพัฒนาในระดับพื้นที่
ในการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แก้วตา ม่วงเกษม อาจารย์ประจำภาควิชาการจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้ดำเนินการศึกษาร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า “การพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย มีกลไกการขับเคลื่อนที่สามารถทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันได้ โดยมีหน่วยงาน และภาคีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนในครั้งนี้ อาทิหน่วยงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ที่เป็นหน่วยงานในการจดทะเบียนรับรองการเป็นผู้ประกอบการด้านธุรกิจเพื่อสังคม โดย การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านเห็นถึงความสำคัญ มองเห็นปัญหา และจุดประกายให้ร่วมกันแก้ไข โดยการถอดบทเรียนในโครงการนี้ มีกลไกที่ต้องเริ่มวางแผนโดยนำ 5 P ดังนี้มาเป็นองค์ประกอบในการวิเคราะห์ ตั้งแต่ Problems Passion Purpose Partnership และParticipation”
กิจกรรมการประชุมฯ ในครั้งนี้ จะมีการนำเสนอผลการศึกษาในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคม และการบรรยายพิเศษ เรื่อง “Green Destinations- ASEAN Good Travel Program for Tourism & Businesses The Future of Tourism: regenerate tourism and businesses in a more sustainable way” โดย Susan Santos Cárdenas Society for Sustainable Tourism – SST President & CEO Green Destinations Southeast Asia-Partner & Representative Good Travel Program – East & Southeast Asia Coordinator และเรื่อง “Top 100 Green Destinations และการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ตามกรอบ GSTC” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แก้วตา ม่วงเกษม อาจารย์ประจำภาควิชาการจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งการบรรยายครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายและการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่นำไปสู่ Top 100 Green destination หรือ การเข้าสู่โปรแกรม Good Travel Program
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ Green destination ได้ที่ผู้ประสานงานโครงการ โทร 097-295-4966 หรือ อีเมล gdthailand.2023@gmail.com ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ และต้องการติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมการท่องเที่ยว สามารถติดตามรายเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.dot.go.th หรือ Facebook: กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-141-3137