29 ตุลาคม 2567 – เอปสันพร้อมส่ง Epson SureColor SC-V1030 เครื่องพิมพ์หมึกยูวีขนาดเดสก์ท็อป A4 รุ่นแรกของเอปสัน รุกตลาดของขวัญ ของพรีเมียม และของแต่งบ้าน ช่วงไฮซีซั่น ชูเทคโนโลยีสุดล้ำพิมพ์ 6 สีได้อย่างคมชัดบนหลากหลายวัสดุตั้งแต่ไม้ พลาสติก อะคริลิก จนถึงสแตนเลส ตอบโจทย์เทรนด์บริการพิมพ์ส่วนบุคคลในปัจจุบัน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง Epson SureColor SC-V1030 ว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ไฮไลท์ของปี 2567 ซึ่งเคยนำมาสาธิตในงาน Innovation Day เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากพาร์ทเนอร์ตัวแทนจำหน่ายและผู้ประกอบการ บริษัทฯ จึงได้นำเข้ามาทำตลาดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เพื่อรองรับช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจของขวัญ ของพรีเมียม และของแต่งบ้านรวมถึงของชำร่วยงานแต่งงาน ที่มียาวไปตั้งแต่ตุลาคมจนถึงเมษายน ซึ่งนอกจากจะมีเทศกาลต่างๆ เป็นปัจจัยช่วยเพิ่มโอกาสในการขายเครื่องพิมพ์รุ่นนี้แล้ว ศักยภาพของเครื่องพิมพ์ Epson SureColor SC-V1030 ยังสร้างโอกาสทางการตลาดที่สูงให้กับตัวเอง ด้วยการที่เป็นเครื่องพิมพ์ยูวีขนาดเดสก์ท็อปรุ่นแรกของเอปสัน ที่สามารถพิมพ์ได้บนวัสดุหลากหลายประเภท เหมาะกับงาน on demand หรือ made to order ที่กำลังเป็นที่นิยม”
“บริษัทฯ มั่นใจว่าการทำตลาด Epson SureColor SC-V1030 ในจังหวะนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งจากฝั่งผู้บริโภคเองที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นในการทำหรือออกแบบของใช้ของตัวเองในรูปแบบ DIY และฝั่งผู้ประกอบการจากหลายสาขาธุรกิจ ตั้งแต่กลุ่มสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านรับผลิตของขวัญ ของพรีเมียม และของตกแต่งบ้าน ร้านรับพิมพ์ภาพที่มองหาโอกาสในการเพิ่มรายได้ด้วยการรับพิมพ์งานบนชิ้นงานอื่นๆ เช่น เคสโทรศัพท์พวงกุญแจ ลูกกอล์ฟ เป็นต้น บริษัทหรือหน่วยงานที่ต้องการทำของพรีเมียม ตัวอย่างแพ็คเกจ หรือสินค้าส่งเสริมการขาย ผู้ผลิตสินค้าและผู้ให้บริการแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการทำสินค้ารุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัด สถานที่ท่องเที่ยว ศาสนสถาน และสโมสรกีฬา ไปถึงศิลปินและนักออกแบบที่ต้องการนำผลงานมาทำเป็นสินค้าหรือพิมพ์ลงบนวัสดุต่างๆ หรือแม้แต่อินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องการสร้างแบรนด์หรือเปิดไลน์สินค้าของตัวเอง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ”
Epson SureColor SC-V1030 เป็นเครื่องพิมพ์ยูวีขนาด A4 ที่รวมจุดเด่นมากมายไว้ในตัว ตั้งแต่ความสามารถในการรองรับวัสดุพิมพ์ได้หลากหลายชนิดและมีความหนาได้สูงสุดถึง 70 มม. ไม่ว่าจะเป็นไม้ พลาสติก อะคริลิก พีวีซีโพลีคาร์บอนเนต แผ่นโฟม เซรามิก ไปจนถึง สแตนเลส อะลูมิเนียม แผ่นโลหะ และหิน อีกทั้งยังใช้หมึก Epson UltraChrome UV 6 สี ได้แก่ สี CMYK สีขาวและเคลือบเงา (วานิช) ทำให้ได้คุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัดให้รายละเอียดได้อย่างประณีต และมีสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นงานตัวอักษร ลายเส้น ภาพถ่าย หรือกราฟฟิก ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัด ใช้พื้นที่แค่ประมาณ 70×70 ซม. และสูงเพียง 43 ซม. สามารถวางบนโต๊ะทำงานได้อย่างสะดวก ไม่เพียงเท่านั้น การทำงานของกระบวนการพิมพ์ยังอยู่ที่บริเวณส่วนหน้าของตัวเครื่อง ทำให้ไม่มีสายไฟที่ด้านหลัง สะดวกต่อการวางเครื่องติดกำแพงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบให้มีความโปร่งใส และมีระบบไฟแสงสว่างภายในช่วยให้ตรวจดูสถานะการพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย
Epson SureColor SC-V1030 ยังมีจอแสดงผลแอลอีดีขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว เพื่อช่วยจัดการและดูแลงานพิมพ์ ตรวจสอบระดับหมึก พร้อมทำความสะอาดหัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย และได้ติดตั้งตัวกรองอากาศคู่ภายในตัว เพื่อช่วยลดกลิ่น ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ปิด ไม่ว่าจะเป็นในร้านค้า สำนักงานขนาดเล็ก หรือห้องทำงานที่บ้าน ทั้งยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Epson Cloud Solution Port ช่วยในการจัดการเครื่องพิมพ์เอปสันหลายเครื่องในเครือข่ายเดียวกันได้แบบครบวงจร ตั้งแต่ตรวจสอบกระบวนการพิมพ์ สถานภาพการใช้งาน และให้รายละเอียดการบริการแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรับประกันความราบรื่นในการทำงาน
“การที่เอปสันนำ Epson SureColor SC-V1030 เข้ามาทำตลาด ยังเป็นการแสดงให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของเอปสันในการตอบโจทย์เทรนด์ความนิยมในบริการพิมพ์ส่วนบุคคล (Personal Printing Service) ของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งบุคคลหรือธุรกิจสามารถพิมพ์สิ่งของที่ปรับแต่งหรือออกแบบเองได้Epson SureColor SC-V1030 สามารถมอบความยืดหยุ่นในการออกแบบและเลือกผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งความยืดหยุ่นนี้เองยังเป็นหัวใจสำคัญของความอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจสินค้าของขวัญ ของพรีเมียม ที่ต้องปรับแต่งสินค้าต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายให้ได้มากที่สุด” นายยรรยง กล่าว
อนึ่ง เอปสันคือบริษัทผู้นำเทคโนโลยีผู้เป็นเจ้าขององค์ความรู้แห่งนวัตกรรม ที่ผสานทั้งประสิทธิภาพ ขนาดกะทัดรัดและความแม่นยำสูงเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์โลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นทางสังคม ผ่านนวัตกรรมต่างๆ ที่ครอบคลุมด้านการพิมพ์ภายในบ้านและสำนักงานการพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม นวัตกรรมที่ใช้ในกระบวนการผลิต การฉายภาพ และเทคโนโลยีเพื่อไลฟ์สไตล์ของผู้คน ภายในปี 2593 เอปสันจะก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนดำเนินธุรกิจที่มีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ติดลบ (Carbon Negative) และยกเลิกการใช้ทรัพยากรใต้ดินที่ใช้แล้วหมดไป เช่นน้ำมัน โลหะ โดยสิ้นเชิง ภายใต้การนำของไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เอปสัน กรุ๊ป ทั่วโลกสามารถสร้างยอดขายต่อปีรวมได้ถึง 1 ล้านๆ เยน
สำหรับเอปสัน สิงคโปร์ ตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมา เอปสันได้เข้าไปมีบทบาทในตลาดสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค คือเอปสัน สิงคโปร์ ซึ่งต่อมาได้ขยายขอบเขตการดูแลพื้นที่ออกไปครอบคลุม11 ประเทศ โดยรับผิดชอบด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อันทันสมัยของเอปสันให้แก่ลูกค้าองค์กรและบุคคลทั่วไปควบคู่กับการให้การสนับสนุนลูกค้าทางด้านต่างๆ ผ่านเครือข่ายที่สมบูรณ์พร้อมของบริษัทฯ อันประกอบด้วยศูนย์บริการ 500 แห่ง โซลูชั่นเซ็นเตอร์ 7 แห่ง และโรงงานผลิต 7 แห่ง
ส่วน บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในเดือนตุลาคม 2533 โดยครอบคลุมการบริหารตลาดประเทศไทย กลุ่มประเทศ CLM และปากีสถาน ปัจจุบันเอปสัน ประเทศไทยมีพนักงาน154 คน ศูนย์บริการ 182 ศูนย์ และเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย 170 แห่งทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์เอปสันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำตลาดสินค้าไอที มีความทนทาน และฟังก์ชั่นการทำงานที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจและลูกค้าองค์กร ทั้งพรินเตอร์ความเร็วสูง ที่มีเทคโนโลยี PrecisionCore และ Heat-Free และพรินเตอร์รุ่นประหยัด Epson EcoTank รวมถึง เอปสัน เลเซอร์ โปรเจคเตอร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3LCD ลิขสิทธิ์ของเอปสันได้เจาะตลาดประเทศ ไทย และขยายสัดส่วนการตลาด ควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทฯ ยังคงคุณภาพมาตรฐานอันดีเยี่ยมของสินค้าและการบริการเหนือระดับ เอปสันจะยังคงคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม