กรุงเทพฯ – 29 มกราคม 2568 – บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดําเนินงานไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 บริษัทได้รายงานผลกําไรก่อนหักภาษีเงินได้295 ล้านบาท สําหรับไตรมาสเดือนตุลาคมธันวาคม 2567 เทียบกับขาดทุน 160 ล้านบาทในไตรมาสเดือนกรกฎาคมกันยายน 2567 และขาดทน 96 ล้านบาทในไตรมาลเดือนตุลาคมธันวาคม 2566

มร.ตารุน ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปริมาณการขายในไตรมาสที่กําลังกล่าวถึงนี้ อยู่ที่ 277,000 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณการขาย 280,000 ต้น ในไตรมาศก่อนหน้าปริมาณการขายภายในประเทศอยู่ที่ 208,000 ตัน เทียบกับ 233,000 ตัน ในไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงความต้องการ ผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวในตลาดภายในประเทศที่ลดลง ทั้งนี้ ได้รับการชดเชยด้วยยอดขายส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 69,000 ตัน เทียบกับ 47,000 ตัน ที่ส่งออกในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่แล้วมาจากยอดขายส่งออกที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากการขายในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5,676 ล้านบาท น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงราคาขายที่ลดลงท่ามกลาง ภาวะตลาดที่ซบเซา เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปริมาณการขายส่งออกที่เพิ่มขึ้น” 

ความคิดริเริมที่บริษัทดําเนินการในการปรับปรุงประสิทธิภาพการแปลงสภาพวัตถุดิบยังช่วยเพิ่มผลกําไรอีกด้วย ทําไรก่อน หักภาษีในไตรมาสนี้รวมถึงกําไร 260 ล้านบาทจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน

Performance Highlights

Q3FY24

Q2FY25

Q3FY25

253,000

280,000

Total Sales Volume (Tons)

277,000

5,493

5,933

Net Sales (Mn THB)

5,676

(96)

(160)

Profit (Loss) before tax (Mn THB)

295

(96)

(159)

Profit (Loss) after tax (Mn THB)

249

ทั้งนี้ ตลาดสินค้าเหล็กของประเทศไทยยังเผชิญกับอุปสรรคที่รุนแรงจากความต้องการภายในประเทศที่ลดลง และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากการนําเข้า แนวโน้มการเติบโตที่จํากัดนั้น สังเกตได้จากการฟื้นตัวที่ข้ากว่าที่คาดการณ์ในภาคส่วนสำคัญ เช่น การก่อสร้าง การผลิต และยานยนต์