ปัจจุบัน ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและยานพาหนะไร้คนขับ ต้องใช้ระบบเซ็นเซอร์ที่มีประสิทธิผลสูง ซึ่งผลักดันให้บริษัท BASF ประเทศเยอรมนี เพิ่มโพลิเอสเตอร์เทอร์โมพลาสติก ที่ทนทานต่อปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส ทั้งนี้ เกรดใหม่ของวัสดุ Ultradur HR ดังกล่าว ประกอบด้วย Ultradur B4330 G6 HR High Speed ที่เสริมเส้นใยแก้ว 30%; Ultradur B4330 G10 HR เสริมเส้นใยแก้ว 50% และ Ultradur B4331 G6 HR ซึ่ง BASF อธิบายว่า เป็นโพลิเอสเตอร์เทอร์โมพลาสติกของอนาคต ที่มีคุณสมบัติการขึ้นรูปที่ดีเยี่ยม
ด้วยเกรด Ultradur HR บริษัท BASF นำเสนอวัสดุ polybutylene terephthalate (PBT) ที่มีความทนทานสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้ในสภาพสมบุกสมบัน เกรด HR ยังทนทานต่อด่าง ที่ก่อให้เกิดการกัดกร่อนร่วมกับความเค้น ส่วนเกรด Ultradur B4331 G6 HR ใหม่ มีการปรับปรุงความเสถียรต่อการหลอมเหลวและการไหล
ในการทดสอบ Ultradur B4331 G6 HR ไม่มีความหนืดเพิ่มขึ้น แม้แต่ในอุณหภูมิสูง เนื่องจาก PBT ทนทานต่อการเกิดรอยไหม้สูง ดังนั้น ปลั๊กจึงสามารถออกแบบให้เล็กลงได้ และยังทนทานต่อกระแสไฟฟ้าแรงสูงในรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและลดน้ำหนักชิ้นส่วนได้อีกด้วย
เกรด Ultradur 4330 G6 HR ครอบคลุม Ultradur B4330 G6 HR High Speed bk15045 ที่มีการไหลที่ดี จึงเหมาะสำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่มีผนังบาง
เกรด Ultradur B4330 G10 HR ใหม่ เหมาะสำหรับชิ้นส่วนที่มีความชื้นและในเวลาเดียวกันมีอุณหภูมิสูง (160°C และสูงถึง 180°C ในระยะสั้น) ในขณะที่ยังคงความแข็ง
สำหรับการใช้กับยานยนต์เฉพาะ บริษัท BASF ได้พัฒนา Ultradur B4450 G5 HR ซึ่ง PBT เสริมด้วยเส้นใยแก้ว 25% และได้มาตรฐาน RoHS และหน่วงการติดไฟ ด้วยคุณสมบัติการเกิดฝ้าต่ำ จึงเหมาะสำหรับการใช้ภายในรถยนต์ และกล่องควบคุม วัสดุที่ได้รับการพัฒนาใหม่ดังกล่าว ผนวกการทนทานต่อปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส เข้ากับการหน่วงการติดไฟ ซึ่งจะให้ประโยชน์แก่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ต้องมีความปลอดภัยสูงและมีกระแสไฟฟ้าสูงกว่ารถยนต์ปกติ
นอกจากนี้ บริษัท BASF ได้พัฒนาเกรด Ultradur ที่ปรับปรุงคุณสมบัติ HR ด้วยการเสริมแรงเส้นใยแก้ว 15%, 30% และ 50% โดยใช้ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กล่องควบคุม ปลั๊ก และเซ็นเซอร์ เป็นต้น
ที่มา: plasticstoday.com
ติดตามข่าวสารข้อมูลยางและพลาสติก เพิ่มเติมที่ www.rubberplasmedia.com, www.rubbmag.com
