แลนเซสส์ (LANXESS) ร่วมต้านภัยโควิด-19 บริจาคน้ำยาฆ่าเชื้อ Rely+On™ Virkon™ 40,000 ลิตรให้แก่หน่วยงานและโรงพยาบาลต่างๆ
กรุงเทพมหานคร, 14 พฤษภาคม 2563 – เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19ในประเทศไทย แลนเซสส์ บริษัทสารเคมีสัญชาติเยอรมัน ได้บริจาคผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูง Rely+On™ Virkon™ เพื่อผสมเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ 40,000 ลิตร ให้กับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลต่างๆ โดยการบริจาคครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของแลนเซสส์ในการบริจาคน้ำยาฆ่าเชื้อจำนวนทั้งหมด 1 ล้านลิตร เพื่อช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั่วโลก
“เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคระบาดครั้งนี้ โดย Rely+On™ Virkon™ นี้ จะช่วยให้การฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” วินอด อักนิโฮไตร กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทแลนเซสส์ในอาเซียนกล่าว “...
แลนเซสส์ (LANXESS) บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2019 แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
กรุงเทพฯ, วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 - แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานของปีการเงิน 2019 แม้จะเผชิญสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยEBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์เป็น 1.019 พันล้านยูโร ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง 1 พันล้านยูโรถึง 1.05 พันล้านยูโรตามที่ได้เคยแจ้งการประมาณการณ์ไว้ ส่วนปีการเงิน 2018 ที่ผ่านมาบริษัทมี EBITDA ที่ 986 ล้านยูโร
สำหรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นของกลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) กลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งชนิดพิเศษ (Specialty Additives) และกลุ่มธุรกิจสารเคมีประสิทธิภาพสูง (Performance Chemicals) เข้ามาชดเชยรายได้ที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง และได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้เปรียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติของทั้งปีสูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทเทียบกับ 14.4 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว
“ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปี 2019 เราต้องยืนหยัดสู้กับการทดสอบจริงเป็นครั้งแรกหลังจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่แลนเซสส์กลับสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิม” คุณแมตเธียส แซกเชิร์ต (Matthias Zachert) ประธานคณะผู้บริหารของ LANXESS AG กล่าว “ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้เรายังสามารถเพิ่มอัตรากำไรของเราจนสร้างสถิติใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ฐานทางการเงินของเรา สำหรับโครงการการเติบโตใหม่ในปี 2020 เราจะทุ่มเทให้กับธุรกิจในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคที่มีอัตรากำไรสูงและแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะในตลาดเทคโนโลยีแบตเตอรี่”
ณ วันที่...
แลนเซสส์ (LANXESS) บริจาคผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคประสิทธิภาพสูง แก่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน รับมือไวรัสโคโรนา
กรุงเทพมหานคร, วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 - การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 (COVID-19) ทำให้การควบคุมและป้องกันโรคระบาด กลายเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศจีนในขณะนี้ และเพื่อช่วยเหลือสถานการณ์ดังกล่าว แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในตลาดเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากประเทศเยอรมนี ได้ประกาศบริจาคผลิตภัณฑ์ Rely+On Virkon ซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงปริมาณ 1 ตันให้แก่โรงพยาบาลในนครอู่ฮั่นและอีกสองเมืองโดยรอบ โดยผลิตภัณฑ์ได้เดินทางมาถึงมณฑลหูเป่ย ประเทศจีนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่โรงงานของแลนเซสส์ในประเทศอังกฤษ ได้เร่งเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ ภายใต้ความร่วมแรงร่วมใจจากพนักงานแลนเซสส์ทั่วโลกที่มุ่งผลิต Rely+On Virkon อย่างรวดเร็ว สำหรับ Rely+On Virkon ปริมาณ 1 ตันนี้ สามารถนำมาเจือจางเพื่อใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อได้ถึง 100,000 ลิตร ด้วยการใช้ความเข้มข้นที่ 1% (1:100)
“ไม่เพียงแต่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นที่ใส่ใจโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นอย่างมาก พนักงานแลนเซสส์ทุกคนทั่วโลกก็ใส่ใจโรคระบาดนี้เป็นอย่างมากเช่นกัน ในช่วงเวลาวิกฤตของการควบคุมการแพร่ระบาด แลนเซสส์มุ่งมั่นที่จะใช้จุดแข็งที่มีอยู่ระดมกำลังให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ด้วยความพยายามของทุก ๆ ภาคส่วน เราเชื่อว่าประเทศจีนจะเอาชนะการแพร่ระบาดนี้ได้อย่างแน่นอน” หมิงเฉิงเชียน ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
การฝึกปฏิบัติให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทำการฆ่าเชื้อโรคและป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคจนเป็นนิสัย ถือเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพต่อการควบคุมการแพร่ระบาด ที่ผ่านมา ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ Rely+On Virkon อย่างแพร่หลายในช่วงที่โรคซาร์สและเมอร์สแพร่ระบาดในประเทศซาอุดิอาระเบียและเกาหลีใต้และในช่วงที่โนโรไวรัส(Norovirus) แพร่ระบาดในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าเชื้อไวรัสโรคซาร์ส เมอร์สและ โควิด-19 มีความคล้ายคลึงกันและถูกจัดให้อยู่ในตระกูลเชื้อไวรัสเดียวกันคือตระกูลโคโรนาไวรัส ผลิตภัณฑ์ Rely+On...
แลนเซสส์ (LANXESS) พลิกโฉมธุรกิจ ติดตั้งระบบดิจิทัลในโรงงานทั่วโลก
กรุงเทพ ฯ - วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563 : แลนเซสส์ (LANXESS) ผู้นำของโลกด้านตลาดเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ มุ่งมั่นก้าวสู่อนาคตด้วยการผลักดันให้โรงงานต่าง ๆ ในเครือ ได้นำระบบดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น แลนเซสส์ได้นำระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุกรมเวลาแบบบริการได้ด้วยตนเอง (self-service analytics system for time-series data) มาใช้ในหลาย ๆ โรงงานในเครือทั้งหมดทั่วโลก เกือบสองในสามของโรงงานทั้งหมดในจำนวน 120 แห่งได้ติดตั้งแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลแบบบริการได้ด้วยตนเองภายใต้ชื่อ TrendMiner ของบริษัท Software AG ครอบคลุมโรงงานการผลิตที่สำคัญทั้งหมดในประเทศเยอรมนี เบลเยียม สหรัฐอเมริกาและอินเดีย มีเพียงโรงงานขนาดเล็กที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนเท่านั้นที่ไม่ได้นำซอฟต์แวร์วิเคราะห์ดังกล่าวนี้เข้ามาใช้
การใช้ซอฟต์แวร์ TrendMiner ช่วยให้พนักงานฝ่ายผลิตสามารถวิเคราะห์กระบวนการผลิตและข้อมูลจากการวัดทั้งหลายได้ด้วยตนเอง สามารถตรวจสอบรูปแบบและแนวโน้มของข้อมูลเหล่านั้นและตรวจจับความผิดปกติในกระบวนการผลิต โดยนำมาใช้ในงานส่วนหลัก ๆ ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิต การบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้า (predictive maintenance) การปรับปรุงคุณภาพในการผลิตหรือการใช้วัตถุดิบและพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประสิทธิภาพสูงขึ้น ภายใต้ค่าใช้จ่ายที่ลดลง
Jörg Hellwig ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล (Chief Digital Officer) ของแลนเซสส์ กล่าวเน้นถึงความได้เปรียบในเชิงธุรกิจที่แลนเซสส์ได้รับว่า “การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงดิจิทัลในกระบวนการผลิตเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของเราอย่างชัดเจน การทดสอบกับ TrendMiner ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่นำมาติดตั้งใช้งานเริ่มแรก ขณะนี้แลนเซสส์ได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของกระบวนการผลิตที่มี TrendMiner ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นทั่วทั้งกลุ่มบริษัท”
ในโครงการเริ่มแรก (initial projects) แลนเซสส์สามารถเพิ่มการใช้กำลังการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญในโรงงานที่ถูกเลือกมาทดลอง ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ทั้งนี้พบว่าการใช้ TrendMiner ในกระบวนการผลิต ส่งผลให้โรงงานบางแห่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึงหลักแสนยูโร
การพลิกโฉมธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (digital transformation) ของแลนเซสส์ยังช่วยพัฒนาพนักงานอีกด้วย ในเรื่องนี้ Hellwig กล่าวว่า “ความสามารถในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเคมีและวิศวกรเคมีในอนาคต...
แลนเซสส์ (LANXESS) ตั้งเป้าปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ.2583 (ค.ศ.2040)
กรุงเทพมหานคร วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 – แลนเซสส์ (LANXESS) ผู้นำในตลาดเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษได้กำหนดเป้าหมายความมุ่งมั่นของตนที่จะช่วยปกป้องสภาพภูมิอากาศ โดยภายในปี พ.ศ.2583 (ค.ศ.2040) กลุ่มแลนเซสส์ตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศ (climate neutral) และจะกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ในปริมาณเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2e) ลงประมาณ 3.2 ล้านตันของระดับปัจจุบัน โดยภายในปี พ.ศ.2573 (ค.ศ.2030) แลนเซสส์จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ถึง...
Medical Plastic Devices: Design, Development, Processing, Regulations, Emerging Markets and Case Studies
This training program is a specialized program focusing on medical plastic devices, aimed for everyone involved with medical plastics devices such as medical grade...
แลนเซสส์ (LANXESS) ตอกย้ำการพัฒนาเป็นเมืองอย่างยั่งยืน ในงาน CHINACOAT
กรุงเทพมหานคร, วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 – แลนเซสส์ (LANXESS) จะร่วมจัดแสดงหลากหลายผลิตภัณฑ์ของตนในงาน CHINACOAT 2019 โดยมุ่งโฟกัสไปที่แนวโน้มหลัก ได้แก่ การกลายเป็นเมือง (urbanization) และการพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น แลนเซสส์จะจัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นล่าสุดของ 4 หน่วยงานได้แก่ หน่วยงานเม็ดสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments:IPG), หน่วยงานผลิตภัณฑ์การปกป้องวัสดุ (Material Protection Products: MPP), RheinChemie (RCH) และ Urethane Systems (URE)
ภายในงานจะมีผู้เชี่ยวชาญของแลนเซสส์ มากล่าวให้ความรู้ทางเทคนิค 3 ช่วงเวลา ช่วงแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 13:30-15:30 น. ช่วงที่ 2 และ 3 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 10:30-11:00 น. และ 14:00-14:30 น.
เม็ดสีคุณภาพสูงจาก "โรงงานสีเขียว" เพื่อให้เหมาะกับการเติบโตของเมืองในประเทศจีน
จุดเด่นของแลนเซสส์ในงาน CHINACOAT 2019 จะเป็นการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะช่วยในการปกป้องสีและสารเคลือบผิวซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบตามสลากสีเขียว (Green Label) ของอุตสาหกรรมการเคลือบผิวในประเทศจีน สารกันเสีย (preservatives) ที่นำมาแสดงในงานทั้งแบบบรรจุในกระป๋อง (in-can) และแบบแผ่นฟิล์ม (dry-film) จะแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมเหนือกว่าสารกันเสียทั่วไป
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Bayferrox เกรดใหม่ทั้งหมด ผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองหนิงโป (Ningbo) ประเทศจีน โดยโรงงานแห่งนี้ได้รับใบรับรอง "โรงงานสีเขียวแห่งชาติ" จากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ในปี 2018...
Thailand Plastics Industry Snapshot September 2019
โดย นายศตพร สภานุชาต สถาบันพลาสติก
เศรษฐกิจไทย กันยายน 2019 ยังคงไม่สู้ดีนัก…ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกไทยในภาพรวมเดือนกันยายนนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหดตัวที่ -1.39% ภาพรวมการส่งออกสะสม 9 เดือน หดตัวเช่นเดียวกันในอัตรา -2.11% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2019 ที่ซบเซาอย่างต่อเนื่องโดยมีประเด็นด้าน Trade war และ Brexit เป็นปัจจัยกระทบหลัก
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในเดือนกันยายนนี้ กลับปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาในอัตรา +3.2% เป็นผลจากแนวโน้มที่ดีขึ้นของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่มีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น ทำให้ความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจบรรเทาลงได้บ้าง ในทางกลับกัน ทิศทางราคาเม็ดพลาสติกภาพรวมยังคงอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องจากระดับอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศที่เบาบาง แต่ทั้งนี้ ผู้ผลิตเม็ดในแต่ละภูมิภาคยังคงมีความพยายามในการปรับราคาเม็ดพลาสติกให้สูงขึ้นผ่านกิจกรรมการกระตุ้นตลาดอย่างระมัดระวัง
ภาวะการผลิตเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกภายในประเทศที่สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI) ชะลอตัวในทุกรายการลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน รวมถึงดัชนีการส่งสินค้า (Shipment Index) ที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง (Inventory Index) กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณสะท้อนถึงการลดลงของระดับอุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศในช่วงเวลานี้อย่างชัดเจน
ด้านการส่งออกเม็ดพลาสติกเดือนกันยายน...
รุกเปิดตัว PLASTKET.COM พลาสติกอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์มรายแรกในประเทศไทย พัฒนารูปแบบการซื้อ-ขายเม็ดพลาสติกครบวงจร มุ่งดัน SMEs ไทย ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลาสติกไทย
ไอพอลิเมอร์ บริษัทในเครือ ไออาร์พีซี (IRPC) จับมือร่วมกับจีน ทุ่มเงินในไทยกว่า ร้อยล้านบาท สร้าง PLASTKET.COM พลาสติกอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์ม (Plastic E-Commerce platform) รายแรกในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ทุกแบรนด์นำเม็ดพลาสติกมาจำหน่ายบนแพลทฟอร์ม สร้างทางเลือกให้ผู้ประกอบการ SMEs พลาสติกทั่วประเทศ มุ่งเป้าสร้างยอดขายเริ่มต้นจำนวน 100,000 ตัน เป็นรายได้กว่า 4,000 ล้านบาท ในปี 2563 พร้อมขยายแพลทฟอร์มสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีหน้า
PLASTKET.COM เป็นพลาสติกอีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์ม (Plastic E-Commerce platform) ที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการพัฒนารูปแบบการซื้อขายเม็ดพลาสติก สารเคมีและผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปให้ง่ายขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ขายนำเม็ดพลาสติกจากหลากหลายแบรนด์มาจัดจำหน่าย เพื่อสร้างตัวเลือกที่หลากหลายทั้งด้านคุณภาพและราคาให้กับผู้ซื้อ บริการซื้อ-ขาย เม็ดพลาสติกออนไลน์ บริการจัดส่งสินค้า บริการสินเชื่อการค้า และบริการด้านความรู้เชิงวิชาการ งานวิจัย ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลของนวัตกรรมล่าสุดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการพลาสติก SMEs ทั่วประเทศ
ไกรศรี ภัณฑ์กิจนิรันดร กรรมการผู้จัดการ...
Thailand Plastics Industry Snapshot July 2019
โดย นายศตพร สภานุชาต สถาบันพลาสติก
ราคาเม็ดพลาสติกเริ่มฟื้นตัวจากเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จากมาตรการขยายเวลาการเข้าควบคุมปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC รวมถึงแนวโน้มการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จากความต้องการบริโภคน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ระดับอุปสงค์เม็ดพลาสติกในตลาดเอเชียกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศจีนที่ภาคการผลิตเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่กลับเข้ามามากกว่าเดือนก่อน ส่งผลให้ระดับอุปทานเม็ดพลาสติกภาพรวมปรับลดลง
ความเคลื่อนไหวตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหมวดเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนกรกฎาคม 2019 บ่งชี้ว่าการผลิตเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเริ่มฟื้นตัวตามอุปสงค์ตลาดส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ในเดือนนี้
มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาในอัตรา +6.3% จากการส่งออกไปประเทศจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเทียบในมิติ YoY มูลค่าการส่งออกเม็ดพลาสติกยังคงติดลบถึง -10.6% แต่การส่งออกเชิงปริมาณกลับขยายตัวได้ที่ +13.8% ด้วยสาเหตุจากระดับราคาเม็ดพลาสติกเฉลี่ยที่คงตัวในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง -20.3% ส่งผลให้ภาคมูลค่าเกิดการหดตัวที่ชัดเจน ทางด้างการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก ขยายตัวจากเดือนที่ผ่านมาได้เล็กน้อยในอัตรา +1.6% จากการส่งออกไปยังตลาดหลักอย่าง ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้มากขึ้นในอัตรา +2.1% และ +5.1% ตามลำดับ สำหรับตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวอยู่ เป็นผลจากการถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยระดับราคาเม็ดพลาสติกในปีนี้ที่เคลื่อนไหวในแนวต่ำแล้ว ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีทิศทางถดถอยอย่างชัดเจน...