ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) วิเคราะห์บทเรียนจากสถานการณ์ราคายางย้อนหลัง 3 ปี และคาดการณ์ราคายางปี 2561 จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีความผิดปกติของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ย้ำ รัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน ผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ

ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า ในปี 2558 เป็นช่วงที่ผลผลิตยางธรรมชาติในหลายประเทศออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตลาดล่วงหน้ามีการเก็งกำไรอย่างหนัก ทำให้ราคายางปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง และรุนแรง จนกระทั่งปี 2559 หลังก่อตั้ง กยท. ภายใต้คณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบัน ได้มีการแก้ปัญหาในช่วงที่ราคาปรับลดลงต่ำสุดที่ 35.55 บาทต่อกก. จนสามารถผลักดันให้ราคายางปรับตัวขึ้นได้ตามสภาวะปกติ โดยมีราคาปิดตลาดปลายปี สูงกว่า 80 บาท ต่อกก.

ในปี 2560 จากเหตุการณ์น้ำท่วมพื้นที่ปลูกยางภาคใต้ที่สะสมมาจนถึงต้นปี ทำให้ปริมาณยางในตลาดลดลงมาก ยิ่งส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น จนไปแตะระดับราคากว่า 100 บาทต่อกก. แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในที่สุด ราคายางก็กลับเข้าสู่วงจรตลาดขาลง ซึ่งเกิดขึ้นสลับเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาล และตามสภาพการซื้อขายทั้งในประเทศ และตลาดซื้อขายล่วงหน้าต่างประเทศ คล้ายกับปี 2558 แต่ราคายางในประเทศไทยก็ยังไม่เคยลดลงต่ำกว่าราคาในช่วงธันวาคม 2558 ที่ปิดตลาดด้วยราคาประมาณ 36 บาทต่อ กก.

“จึงคาดการณ์ว่า ปี 2561 นี้ ราคายางซึ่งได้เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางหลายโครงการทั้งระยะสั้นและยาว ซึ่ง กยท. เองได้นำสู่การปฏิบัติตามนโยบายมาโดยตลอด และในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ราคากลับมายืนอยู่ที่ 47 บาทกว่าต่อ กก. และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นคล้ายปี 2559 หากต่อไปนี้ไม่มีสถานการณ์ของโลกที่ผิดปกติ หรือ การแทรกแซงทางการเมือง หรือการสร้างกระแสข่าวลบจากกลุ่มคนที่ละเลยประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะทั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กยท.เอง ได้มีนโยบาย และมาตรการทั้งในและต่างประเทศในการมาช่วยผลักดันราคายางในประเทศเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวสวนยาง และเสถียรภาพราคายางอย่างต่อเนื่อง” ดร. ธีธัช กล่าวทิ้งท้าย

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here