ดร.สกุล เกียรติ์จีรวิรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ประภัตร โพธสุธน) และผู้บริหารบริษัท บุญมงคล 2019 จำกัด นำคณะผู้ประกอบการพืชสมุนไพรกระท่อมจากประเทศไทย และ ต่างชาติ จากมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศมาเลเซีย ที่เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องการมาตรฐานสินค้า เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของห้องปฏิบัติการทดสอบ สำนักงานสาขากรุงเทพ โดยมี นายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (เซ็นทรัลแล็บไทย) ให้การต้อนรับ พร้อมหารือด้านการพัฒนากระบวนการทดสอบพืชกระท่อมให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ

โดย ดร.สกุล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้การสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการ ในการพัฒนาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มพืชเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้พืชกระท่อมเป็นพืชสมุนไพรตัวใหม่ ที่ทำเงินได้มหาศาล ด้วยคุณสมบัติหลายด้าน ทั้งในทางการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม ในฐานะที่กระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งเซ็นทรัลแล็บไทย ตั้งแต่ปี 2546 เพื่อรองรับการถ่ายโอนงานภาครัฐ และสนับสนุนงานทางห้องปฏิบัติการ จึงมั่นใจในศักยภาพ มาตรฐาน ความถูกต้องแม่นยำ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจทดสอบสินค้าทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ

สำหรับการออกหลักเกณฑ์การสุ่มตัวอย่าง เพื่อใช้ประกอบการออกให้ใบรายงานผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพสินค้า หรือ Certificate of Analysis (COA) ที่ผู้ผลิตตรวจสอบ ทดสอบ และรับรองให้กับผู้ซื้อ ตามล็อตการผลิตนั้น เทียบกับค่ามาตรฐาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการในการส่งออกนั้น จะได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดร.สกุล กล่าว

ด้าน นายชาคริต  เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการเซ็นทรัลแล็บไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของห้องปฏิบัติการ โดยปีนี้มีการลงทุนเครื่องมือขั้นสูงเพื่อรองรับการตรวจทดสอบรายการใหม่ๆ ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของภาครัฐและผู้ประกอบการ สำหรับพืชเศรษฐกิจในกลุ่มสมุนไพร ทั้งกัญชา กัญชง และกระท่อม ถือเป็นสินค้าใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเซ็นทรัลแล็บไทย ได้รับใบอนุญาตในการตรวจคุณภาพพืชกระท่อมถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจหาสารสำคัญในพืชกระท่อมคือ ไมทราไจนีน(Mitragynine) และ เซเว่นไฮดรอกซี่ไมทราไจนีน (7-hydroxymitragynine) ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่ผู้ผลิตสามารถไปนำใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้ เช่น ทางการแพทย์ หรือนำไปเป็นส่วนส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้นนอกจากยังสามารถให้การตรวจคุณภาพระหว่างกระบวนการปลูกตั้งแต่ ต้นน้ำ ถึง ปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ มีความมั่นใจในคุณภาพของผลผลิตจากพืชกระท่อม

ขณะที่ นายรีกรือลี เจะแว  ประธานที่ปรึกษาธุรกิจระหว่างประเทศบริษัท ดีน่า ฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ศึกษาและติดตามนโยบายภาครัฐถึงแนวทางการพัฒนาพืชเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพืชกระท่อม ซึ่งถือเป็นพืชมหัศจรรย์ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลาย และในทางเศรษฐกิจก็เป็นที่ยอมรับจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เนื่องจากไม่ผิดกฎหมายทั้งไทยและในการนำเข้าประเทศ อีกทั้งไม่ขัดหลักศาสนาอิสลามสามารถใช้พืชกระท่อมได้ ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียงประเทศอินโอนีเซียและมาเลเซียเท่านั้นที่มีการส่งออกสินค้าจากกระท่อม แต่หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อกแล้ว จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการและเกษตรกรเพราะผลการศึกษาระบุว่า กระท่อมไทย มีค่าสารสำคัญไมทราไจนีนสูง ดังนั้น จะต้องเร่งทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบคือพืชกระท่อมของไทยสู่ตลาดโลก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือมวลมนุษย์ชาติเพราะประโยชน์ที่มีมากมาย ฉนั้นสิ่งที่คำนึงถึงคือความเป็นมาตรฐาน ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาทิ ปัจจัยการผลิต ดิน/น้ำ/อากาศ และมาตรฐาน GAP,GMP และการแปรรูปอื่นๆเพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกและผลิตกระท่อมที่ดีที่สุดในโลก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here