แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหหน่ายรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย ภูมิใจนำเสนอ ดีบี12 โวลานเต้ ใหม่ (New DB12 Volante) ซึ่งเป็นรุ่น ที่ต่อยอดจาก ดีบี12 คูเป้ (DB12 Coupe) ที่ผสมผสานสมรรถนะของยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ เข้ากับความสุนทรีย์ของการขับรถเปิดประทุน นับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูที่มีระดับ ซึ่งมีความสง่างามและคุณลักษณะแบบสปอร์ตที่ยากจะหาใครมาเทียบ ทำให้ ดีบี12 โวลานเต้ เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในกลุ่มรถเปิดประทุนสมรรถนะสูงของ แอสตัน มาร์ติน ที่มาพร้อมความประณีตทุกรายละเอียด และรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ผสานเทคโนโลยีและวิศวกรรมล้ำสมัย ขณะที่ประสบการณ์การขับ ก็ได้รับการปรับแต่งถึงขีดสุดแห่งความเป็นไปได้

ธเนศ อนุจารีย์อาภา ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก กล่าวว่าการขับรถเปิดประทุน นับเป็นหนึ่งในประสบการณ์พิเศษที่หลายคนถวิลหา ซึ่ง แอสตัน มาร์ติน โวลานเต้ ได้นำเสนอประสบการณ์ดังกล่าว ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์มานานกว่าหกทศวรรษ เช่นเดียวกับ ดีบี12 โวลานเต้ ใหม่ ที่สามารถหยิบยื่นความรู้สึกพิเศษได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยไม่ส่งผลกระทบ กับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ ดีบี12 คูเป้ ท้าทายความเชื่อแบบดั้งเดิม และน่าจะได้ เสียงตอบรับที่ดี จากลูกค้าในปัจจุบัน

เสน่ห์เย้ายวน เกินต้าน กับหลังคาอัตโนมัติ ‘K-FOLD’

มองจากภายนอก แอสตัน มาร์ติน ดีบี12 โวลานเต้ นำเสนอการออกแบบที่กล้าแกร่งและแน่วแน่ของยนตรกรรมสไตล์คูเป้ โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมมีความแข็งแกร่งสูง ผสานกลไกหลังคาผ้าใบอัตโนมัติ ‘K-Fold’ ตั้งชื่อตามการพับเก็บสองขั้นตอน ทำให้มีความสูงเพียง 260 มิลลิเมตร รูปทรงเพรียวบางและดูงดงาม ใช้เวลาเปิดปิดเพียง 14 และ16 วินาที ตามลำดับ พร้อมฉนวนมากถึง 8 ชั้น ทำให้ ดีบี12 โวลานเต้ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือรถเปิดประทุนทั่วไปโดยเมื่อเปิดใช้งาน หลังคาจะพับเก็บอัตโนมัติอยู่ใต้ฝาปิดหนังแท้ ผสานเส้นสายตัวถังที่เพรียวบาง นำสายตาสู่ห้องโดยสารอันหรูหรา ตัดกันกับตัวถังด้านท้ายที่ดูบึกบึนและทรงพลัง

หรูหรา สะดุดตาทุกมิติ กับห้องโดยสารอันล้ำสมัย

รายละเอียดอันน่ารื่นรมย์ที่ทำให้ห้องโดยสารของ ดีบี12 โวลานเต้ ดูแตกต่างจากรถคูเป้ คือ แผงไม้หรือแผงคาร์บอนไฟเบอร์บนพนักพิง แบบเดียวกับขอบประตู สร้างมิติที่น่าดึงดูดใจ และความหรูหราแบบพิเศษ ระบบอินโฟเทนเมนต์ล้ำสมัย และ HMI (Human Machine Interface) แบบใหม่ ช่วยให้ผู้โดยสารไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ แสดงผลผ่านทัชสกรีนอเนกประสงค์ ‘Pure Black’ ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคู่กับการติดตั้งปุ่มและสวิตช์ควบคุมระบบที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด เพิ่มความสุนทรีย์ยามขับเคลื่อน ด้วยเครื่องเสียงBowers & Wilkins 390 วัตต์ 11 ลำโพง

แรงสะใจ ทรงพลังมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน

ยกระดับให้กับรถ จีที สู่การเป็นยนตรกรรมซูเปอร์ ทัวเรอร์ ขึ้นทำเนียบยนตรกรรมพลังแรงที่สุดในคลาส ด้วยขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร 680 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 800 นิวตันเมตร ที่ 2,750-6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ (ZF 8HP75) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เฉียบคม กับแฮนด์ลิงระดับซูเปอร์ทัวเรอร์

อีกหนึ่งความพิเศษของ แอสตัน มาร์ติน DB12 คือ ช่วงล่างหน้าดับเบิลวิชโบน และหลังมัลติลิงค์ พร้อมโช้กอัพอะแดปทีฟ ‘BILSTEIN DTX’ ที่มีความความยืดหยุ่น นุ่มหนึบ และความละเอียดในการขับมากขึ้นถึง 500% (เทียบกับDB11 V8) นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรก ที่มีการติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-diff) กับยนตรกรรมสายพันธุ์ DB ควบคุมรถอย่างมั่นใจด้วยคาลิเปอร์เบรกหน้า 6 พ็อต หลัง 4 พ็อต จับคู่จานเบรกโลหะเจาะรูระบายความร้อน หน้าหลังขนาด 400 และ 360 มิลลิเมตร ตามลำดับ พร้อมมีจานเบรก คาร์บอนเซรามิก เจาะรูระบายความร้อน หน้าหลังขนาด 410 และ 360 มิลลิเมตร เป็นออปชั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชะลอความเร็ว และลดน้ำหนักใต้สปริงได้ถึง 27 กิโลกรัม ปิดท้ายด้วยล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้ว จับคู่กับยาง Michelin Pilot Sport S 5 แก้มยางระบุอักษร ‘AML’ บ่งบอกว่าผลิตมาสำหรับ แอสตัน มาร์ติน DB12 พิเศษกับโครงสร้างโฟมด้านใน ช่วยลดเสียงรบกวน และนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยมีขนาดหน้าหลัง 275/35/ZR21 และ 325/30/ZR21 ตามลำดับ

แอสตัน มาร์ติน ดีบี12 โวลานเต้ ยังคงรักษาจุดเด่นของยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งความประณีตหรูหรา มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานสุนทรียะแห่งการขับรถเปิดประทุน นับเป็นยนตรกรรมที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้ครอบครองได้อย่างแท้จริง โดยมี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่  24.9 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here